พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

พระดีที่น่าบูชา สมเด็จแหวกม่านพิมพ์ต้อหรือพิมพ์ประสบการณ์ อ.ตั้วท่านจัดสร้างเมื่อปี๒๕๔๒-๔๓

​

ผสมผงพุทธคุณ 350 คณาจารย์ หลวงปู่หมุน ปลุกเสกใหญ่หลายพิธี หลายวาระ พระสภาพสวย พระอาจารย์ตั้ว เจ้าอาวาสวัดซับลำใย เป็นผู้รวบรวมมวลสารนี้มา เพื่อมาสร้างตามตำราของหลวงพ่อกวยอาจารย์ของท่าน, ท่านกล่าวว่า มวลสารนี้เป็นมวลสารที่มีพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยมและโชคลาภ ซึ่งกว่าจะรวบรวมได้นั้นก็ยากลำบากต้องเก็บมาหลายปีเลยทีเดียว ผงพุทธคุณที่เก็บรวบรวมมีตัวอย่างดังต่อไปนี้ -ผงสมเด็จที่ชำรุดของหลวงปุ่นาค (พระเทพสิทธินายก) วัดระฆัง,ผงพุทธคุณ ๑๐๘ จากอาจาย์ทั่วประเทศ ได้ทำพิธีที่วัดเบญจมบพิตร เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙, -ผงจินดามณีของหลวงพ่อเพิ่ม (พระพุทธวิธีนายก) วัดกลางบางแก้ว -ผงมหาราช ผงอิทธิเจ หลวงพ่อเนตร วัดตุ๊กตา จ.นครปฐม -ผงตรีนิสิงเห ผงปถมัง ของอดีตเจ้าอาวาสวัดปริยายก กทม. -ผงอิทธิเจ ของหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง ได้มาจากอาจารย์ดุลย์ วัดไทยน้อย จ.นนทบุรี -ผงของหลวงปุ่ใจ วัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม -ผงโลกธาตุ พลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ได้มาเมื่อปี ๒๕๓๑ -ผงรัตนมาลาของหลวงพ่อสละ เถรปญโญ วัดประดูทรงธรรม -ผงอิจธิเจ ของหลวงพ่อผล วัดคลองจันทร์ จ.อุทัยธานี ได้มาเมื่อปี ๒๕๒๔ -ผงตรีนิสิงเห ของหลวงพ่อพรหม แห่งวัดขนอนเหนือ จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๙ -ผงพุทธคุณ หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๙ -ผงปถมัง หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ -ผงไตรรัตน์ กับพงอาการ ๓๒ ของหลวงพ่อชื่น วัดญาณเสน จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๓ -ผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี -ผงโสฬสมงคล ของหลวงพ่อถก จ.กาญจนบุรี ได้มาจากท่านอาจารย์นิวัฒน์ (พระมหานิวัฒน์ ญาณสมปนโน) ได้เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๐ -ผงพรายกุมาร หลวงพ่อทิม อิสรโก วัดระหารไร่ ได้เมื่อปี ๒๕๑๙ -ผงพุทธคุณของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ที่ได้เก็บสะสมไว้โดยท่านพระอาจารย์สมุห์ภาสน์เองครั้งยังเป็นสามเณรรับใช้หลวงพ่อกวย อยู่ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ – พ.ศ. ๒๕๒๐ -ผงนางดาราฯ จ.นครศรีธรรมราช ได้จากท่านอาจารย์วัชรินทร์ -แร่ปรอททองคำ ได้จากผู้เฒ่าที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ -ผงดินกากยายักษ์และผงว่าน ๑๐๘ จากจังหวัด นครศรีธรรมราช พ.ศ. ๒๕๒๘ -ผงพุทธคุณของหลวงพ่อคง ธมมโชโต วัดบางกระพ้อม -ผงงากำจักกำจาย ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ณ ที่เขาใหญ่ -ผงมหาราชของหลวงพ่อหยิบ วัดหน้าพระเมรุ จ.อยุธยา ได้จากพระอาจารย์หนู วัดเชิงท่า ลพบุรี -ผงทราวดี มีอายุเป็นพันปี ได้มาจากพระคำ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ -ผงจากกรุวัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ -ผงของหลวงพ่อบุญสิน วัดปลายคลองพลิ้ว จ.จันทรบุรี ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ -ผงพุทธคุณของหลวงพ่อชม วัดอินทาราม จ.ชัยนาท -ผงเมาลี ของหลวงพ่อโต วัดอินทรารามมหาวิหาร กรุงเทพฯ -ผงของหลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓ -ผงพุทธคุณหลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ จ.ชัยนาท -ผงของหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี -ผงของหลวงพ่อมี วัดเขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี -แป้งเสกของหลวงปู่บุดดา วัดกลางเจริญศรี จ.สิงห์บุรี และผงยาเส้นของหลวงพ่อคูณ แห่งวัดบ้านไร่ รวมทั้งผงจากวัดอื่นๆ เกจิอาจารย์ทั้งหลายจนครบ ๓๕๐ อาจารย์
ซึ่งพระสมเด็จแหวกม่านนี้ก็นำเข้าพิธีใหญ่ของวัดด้วยคือ
พิธีมหาสมปรารถนา สมเด็จแหวกม่านข้างเม็ด หลวงปู่หมุนปลุกเสก ออกวัดซับลำใย เนื้อทรายเสก ( หลวงปู่หมุนเสก 4 ปี 5 พิธี) ปี ๒๕๔๒
ปลุกเสกพิธีพระกริ่งหิรัญญราช (เกจิร่วมปลุกเสกมากมาย หลวงปู่หมุนเป็นประธานเททอง) ปี ๒๕๔๓
ปลุกเสกพิธีมหาสมปรารถนา (หลวงปู่หมุน เป็นองค์ประธานในพิธีพุทธาภิเษก) ปี ๒๕๔๔ หลวงปู่หมุนปลุกเสกเดี่ยวในงานสรงน้ำประจำปี วัดซับลำใย จ.ลพบุรี ปี ๒๕๔๔ เข้าร่วมในพิธี ๙ แผ่นดินมหาสมปรารถนา (หลวงปู่หมุน เป็นองค์ประธานในพิธีพุทธาภิเษก) ปี ๒๕๔๕ หลวงปู่หมุนปลุกเสกเดี่ยวในงานสรงน้ำประจำปี วัดซับลำใย จ.ลพบุรี เมื่อวันที่่ 5 พ.ย. 2543 ในพิธีนี้มีพระเกจิชื่อดังมากมายหลายรูปอาทิ เช่น
1.หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล เป็นประธานพิธีนั่งปรก
2.หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน สำนักสวนป่าสมุนไพร จ.เพชรบูรณ์
3.หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน จ.สุรินทร์
4.หลวงปู่ฤทธิ์ รัตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์
5.หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา
6.หลวงพ่อเพี้ยน อัคคธมโม วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี
7.หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์
8.หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
9.หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
10.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม ฯลฯ และพระเกจิอีกหลายรูป

พุทธลักษณะของพระพิมพ์สมเด็จแหวกม่าน พิมพ์ต้อ เป็นพุทธรูปนั่งมารวิชัยกลางม่านที่แหวกออกมา มีแสงรัศมีพวยพุ่ง เหมือนดังตอนที่องค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้าตอนชนะมารและบรรลุอนุตรสัมโพธิญาน พุทธคุณของพระสมเด็จแหวกม่าน แหวกอุปสรรคปัญหาในชีวิต พลิกชะตาชีวิตให้ดีขึ้น มีแสงสว่างในชีวิต ชีวิตมีความเจริญก้าวหน้า เรื่องร้ายกลับกลายเป็นดี

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ

 

3777.เหรียญอุ้มบาตรรับทรัพย์ หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ จัดสร้างปีพ.ศ.2554 ปิดรายการครับ

​

ข้าวก้นบาตรหลวงพ่อประสิทริ์ ข้าวก้นบาตรอาจารย์ตื้อ เขมารโต
(ข้าวก้นบาตรของพระอาจารย์ตื้อ เขมารโต วัดป่าหนองสละ ลูกศิษย์ในองค์หลวงพ่อประสิทธิ์ พระอาจารย์ตื้อใด้เมตตาอธิฐานให้เเล้ว )

 

-ขอจองครับ

 

รับทราบการจอง ขอบคุณมากครับ

 

3778. สุดยอดเมตตา โภคทรัพย์ พระปิดตาจัมโบ้ แช่น้ำมนต์ ตะกรุดทอง หลวงพ่อแพ ปี๒๕๓๙ ปิดรายการครับ

​

ไปหาแพซิ......แพเก่งนะ....นี่คือคำพูด ของ หลวงพ่อกวย ชุตินธฺโร วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท
พระเถระที่ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่ง วัดสะแก กล่าวถึงท่านว่า หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี"ใครมีปืนยิงเลยยิงไม่ออก"
สำหรับหลวงพ่อแพ ในเรื่องของพุทธาคมวิทยาคม ลูกศิษย์ เห็นประจักษ์ เพราะหลวงพ่อแพ ก็เป็นศิษย์ของหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ สิงห์บุรี และหลวงพ่อจุ้ย วัดสามปลื้ม พระครูเกลี้ยง วัดสุทัศน์


หลวงพ่อแพ เป็นพระเถราจารย์ ผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐ มีเมตตาเป็นที่สุด มีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั่วประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง อาทิเช่น ประเทศฮ่องกง, สิงคโปร์, ไต้หวัน, มาเลเซีย เป็นต้น วัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นทุกรุ่นของท่านนั้นปรากฏพุทธคุณสูงเยี่ยมในทุกๆ ด้าน ล้วนได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นที่เลื่องชื่อลือชาอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีประสบการณ์มากมาย ทั้งแคล้วคลาด คุ้มครอง โชคลาภค้าขายร่ำรวย
ตลอดชีวิตของหลวงพ่อแพ ท่านได้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาอย่างเอนกอนันต์ และได้อุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้แก่ประชาชนผู้เดือดร้อนหรือตกทุกข์ได้ยากตลอดมา ท่านเปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของประชาชนทั่วไป ได้แผ่บารมีช่วยเหลือกิจการต่างๆ ผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อชาวสิงห์บุรีและพุทธศาสนิกชนทั่วไป จนได้รับความเคารพยกย่องถึงกับมีการขนานนามท่านว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย”
การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อแพนั้น ท่านมิได้เน้นเรื่องความสวยงาม หากแต่เน้นไปในเรื่องของความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลนั้น ๆ โดยท่านจะพิถีพิถันในการปลุกเสก ทั้งวิชาอาคม ทั้งอำนาจจิต เพื่อให้เกิดความแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง และด้วยพลังบริสุทธิ์ดังกล่าว จึงทำให้วัตถุมงคลของหลวงพ่อแพรุ่นต่าง ๆ มีประสบการณ์อภินิหารมากมาย สืบสานยาวนานมาจนทุกวันนี้ในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ หลวงพ่อแพได้สร้างพระสมเด็จเนื้อผงรุ่นหนึ่งขึ้นมาหลายพิมพ์ กล่าวกันว่า วัตถุมงคลที่หลวงพ่อแพสร้างขึ้นมีอานุภาพด้านพุทธคุณครอบจักรวาล

หลวงพ่อแพท่านเป็นเครือญาติกันกับทาง ก๋ง (ปู่) ของผม สมัยตอนผมยังไม่เกิด อาผมเล่าว่าก๋งตอนหนุ่มๆก็เคยโดนพวกคุณไสยก็ไปให้หลวงพ่อแพท่านรักษา พ่อผมก็โดนพวกลมเพลมพัด ก็เอาไปให้หลวงพ่อแพท่านรักษา ท่านก็รักษาหายหมด

อาเล่าว่า ที่เคยเห็นกับตาคือ หลวงพ่อแพยกมือเอานิ้วมือเขียนๆยันต์บนอากาศ แล้วก็มีผงตกลงมาจากอากาศ (ก่อนหน้าท่านจะเขียน ท่านให้อุปัฏฐากเอาผ้ามารองก่อน) ลงมาบนผ้าที่รองอยู่ อาบอกว่า ตอนที่เห็นก็ตะลึงตึงๆ เพราะไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อน

 

3779.ล็อคเก็ตหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พิมพ์ใหญ่ เลข 32 เมตตาจิตโดย หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ วัดป่าอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่(ผู้มีศักดิ์เป็นหลานแท้แท้ของหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม) ด้านหลังล็อกเกตอุดมวลสารตะกรุด เกษา ให้บูชา 750 บาท

​

 

3780.สมเด็จปรกโพธิ์ วัดบางสะแกนอก เสาร์ ๕ ปี ๒๕๑๖ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน,หลวงพ่อมิ่ง วัดกก ปลุกเสก พิธีใหญ่ ปิดรายการครับ

​

วัตถุมงคลวัดบางสะแกนอก เสาร์ ๕ ปี ๒๕๑๖ มวลสารประกอบด้วยผงพระพุทธคุณผงวิเศษต่างๆ อาทิ
- ผงไม้โพธิ์ฟ้าผ่าเป็นแม่บท
- ผงวิเศษทั้ง ๕ ประการ ผงพุทธคุณ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ
ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช
- ผงพระเจ้า ๕๐๐ ชาติ
- ผงอิติปิโสรัตนมาลา ๕๖ ยันต์
- ผงพระรอด
- ผงบารมี ๓๐ ทัศน์
- ผงนารายณ์แปลงทัพ
- ผงนารายณ์แปลงรูป
- ผงนารายณ์ขว้างจักร
- ผงนารายณ์กลืนสมุทรพลิกแผ่นดินหงาย
- ผงฝนแสนห่า
- ผงกระทู้เจ็ดแบก
- ผงว่าน๑๐๘
- ผงเกสรดอกคูณ ผงเกสรดอกคูณนี้โบราณาจารย์ท่าน
ว่ามีแต่เพิ่มทวีคูณไม่มีการลด
พิธีพุทธาภิเษก วันเสาร์๕ ที่ ๗ เมษายน ๒๕๑๖ ครั้งนี้ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ทั้งสามนิกายคือ ไทย, จีนและญวน สวดพุทธาภิเษกทั้งคืนยันสว่าง พระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงสวดอิติปิโสถอยหลังอีก ๑๐๘ จบ พระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
- หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
- หลวงพ่ออยู่ วัดเกยไชยเหนือ
- หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
- หลวงพ่อมิ่ง วัดกก
- หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ
- หลวงพ่อณรงค์ วัดมะเกล็อ
ฯลฯ

 

3781.ล็อกเก็ตบรมครู รุ่น ๑ หลวงปู่ทองหล่อ วัดโปรดสัตว์ จ.พระนครศรีอยุธยา ปิดรายการครับ

​

มหาเถระผู้เฒ่า ๔ แผ่นดิน ศิษย์ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ คุณครูจางวางทั่ว พาทยโกศล ครูหลวงสมัยรัชกาลที่ ๕ ครอบครูต่อเพลง เคยแสดงระนาดเอกถวายกรมพระนครสวรรค์ ทัน กรมหลวงชุมพร

หลวงปู่หล่อ ท่านเป็นบรมครูนักเลงระนาดตัวจริงเดินเข้าออกวังบางขุนพรหม ครูจางวางทั่ว พาทยโกศลปี่พาทย์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต ครอบครูให้ตั่งแต่หนุ่มๆ หลวงปู่ครอบครูต่อให้ใคร รับรอง มีทั้งชื่อเสียง โด่งดัง ร่ำรวย เป็นเศรษฐี ไม่ตายโหง เพราะครูรักษา บวชตั่งแต่หนุ่ม ยันบัดนี้ถือพรหมจรรย์ เคร่งครัดในศีลสมาธิ พลังจิตแน่นอนเด็ดเดี่ยว หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติเป็นครูโดยตรง หลวงปู่เขียว วัดท้ายน้ำ เพื่อน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เป็นครูใกล้ชิดได้วิชาหลวงพ่อเงินมามากโข หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อฟัก วัดทำเลไท หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ให้วิชาหลวงปู่หล่อ องค์นี้
หลวงปู่หล่อ เก่งกาจถึงกับ ลงตะกรุดแทน หลวงพ่อบุญ วัดช่างทอง และลง ยันต์มหาจักรพรรดิและ ตะกรุดคู่ชีวิตให้หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ นำไปทูลเกล้าถวายเจ้าแผ่นดิน
ในหลวงพระราชทาน “ พระครูบรรหารนวกิจ” ตั่งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๑๗ อายุ 94 พรรษา มากที่สุดในอยุธยา สืบวิชา สำนักวัดประดู่ในทรงธรรมอย่างแท้จริง ถึงขนาด หลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อหน่าย หลวงปู่สีห์ ออกปากชมในวิชาอาคมและพลังจิต ยกย่องให้เป็น “เสือบางปะอิน สิงห์ขนอนหลวง”

ล็อกเกต รุ่นแรก “บรมครู นารายณ์ปราบไพรี เมตตาครอบแผ่นดินทั้ง ๔ ทิศ ”
ล็อกเกต รุ่นแรกไม่ใช่ล็อกเกตรุ่นแรกธรรมดา หลวงปู่ไม่เคยออกล็อกเกตเลยตลอดชีวิต รอฤกษ์พานาที สร้างทั้งทีต้องดีจริงๆ ล็อกเกตรุ่นแรกนี้ไม่ธรรมดาเป็นล็อกเกต 4 เหลี่ยม สร้างในโอกาส หลวงปู่มีอายุ 94 ปี ๔ สี่เหลี่ยม ๔ สี่มุม อายุยืนยาว ๔ สี่แผ่นดิน สร้างถวายบรมครูฆราวาสทั้ง ๔ องค์ของหลวงปู่ตั่งแต่ สมเด็จพระบรมบพิตร มหาสมภารเจ้า พระมหาธีรราชเจ้า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ แห่งบรมราชจักรกรีวงศ์ แผ่นดินที่หลวงปู่เกิด (หลวงปู่เกิดสมัยรัชกาลที่ ๖ ถึง ปัจจุบันก็ ๔ แผ่นดินพอดี ) ๑ พระองค์ จอมพล สมเด็จ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระโอรส รัชกาลที่ ๕ เจ้าของวังบางขุนพรหมวังที่ผลิตศิลปินแห่งสยามประเทศมานักต่อนักและที่สำคัญ หลวงปู่ก็ได้ศึกษาวิชาในวังนี้ด้วย ยิ่งกว่านั้นหลวงปู่เคยเดี่ยวระนาดถวาย จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต (ผู้เป็นเสด็จปู่ของ ม.ร.ว สุขุมพันธ์ บริพัตร ) ๑ พระองค์ อีกพระองค์หนึ่งคือ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ “เสด็จเตี่ย” ด้วยเพราะความเป็นคนวังต่อปี่พาทย์วัง เสด็จเตี่ยจึงให้ความรักความเอ็นดู อีก ๑พระองค์ ครูคนสุดท้ายคือ ท่าน ครู จางวางทั่ว พาทยโกศล ครูดนตรีราชสำนักสมัยรัชกาลที่ ๕ ครอบครูให้หลวงปู่สมัยก่อนบวช หลวงปู่ทองหล่อนี่แหละมือระนาดเอกรุ่นเก่าแก่
๔ องค์บรมครู ๔ สี่เหลี่ยม ๔ สี่มุม อายุ ๙๔ ล็อกเกตแสนวิเศษนี้จึงเกิดขึ้น

ล็อกเกต รุ่นแรก “บรมครู นารายณ์ปราบไพรี เมตตาครอบแผ่นดินทั้ง ๔ ทิศ ”

หลวงปู่นั่งเชิญเศียร พ่อปู่ฤษี หรือ “พ่อแก่” ผู้เป็นที่รักที่ระลึกถึงของศิลปินทั้งน้อยทั้งใหญ่ ปู่ฤษีหรือ “พ่อแก่” แทนบรมครู ตำรับตำราทั้งปวง ครูเฒ่า ครูวิชาอาคม อักขละเลขยันต์ทั้งปวง หลวงปู่ถือเศียรปู่ฤษี หรือ “พ่อแก่” ประดุจหลวงปู่กำลังครอบครูวิชาตำรับตำราเก่าที่ตกทอดมาให้ลูกหลายเหลน ลูกศิษย์ลูกหาทุกคนทุกท่าน โดยกล่าวอัญเชิญพรอันประเสริฐ มงคลเกษม ครูคุ้มครอง รักษา ดูแลให้ ลูกหลานทั้งหลายมีแต่ความสุขความเจริญ ก้าวหน้าในหน้าที่การงานทั้งปวง ทวยไทยเทพแซ่ซ้องสรรเสริญบรมครูผู้ประสิทธิ์ประสาทสรรพร ณ บัดนี้ (ปี่พาทย์บรรเลงเพลง สาธุการฯ )

มหายันต์อยู่บนทั้งซ้ายและขวาขององค์ หลวงปู่ คือยันต์ครูในตำรับสำนักวัดประดู่ในทรงธรรมที่หลวงปู่ท่านได้สืบทอดมาจากองค์หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ นั้นคือยันต์ “เฑาะสมาธิ” มีคุณดังมหาประลัยโกฏิ เจริญรุ่งพุ่งไกล รุ่งเรืองดังแสงพระอาทิตย์กลางตะวัน มองทะลุพระอภิธรรม ทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์หมดจนหมดสิ้น และ มหายันต์ “เฑาะมหาพรหมแสนสะท้าน” ดังคำเชิญเทพพรหมออกจากปากมาปกปักรักษาสิ่งใดตัวกู...สิ่งใดไม่ดีย้อนกลับคนคิดร้านแพ้ภัยตนเอง

รอบรอบองค์หลวงปู่ทั้งกรอบ ๔ เหลี่ยมจุดเกาะแก้วทั้ง ๗ ประการ เป็นคาถาอิติปิโส ๘ ทิศ ปกป้องทั่วจักวาล ฟ้าบ่กั้น แต่หลวงปู่ท่านให้ถอดเป็นความหมาย ทั้ง ๘ เพื่อบรรยายสรรคุณดังนี้

๑.ธงชัยกระทู้เจ็ดแบก อาจารย์จำแนกไว้บูชา กันพิษสัตว์ร้าย เดินป่าเข้าถ้ำ สารพัดสัตว์ร้ายถอยหนี ถึงแม้เข้าต่อสู้กับช้างสารตกมัน หักเอางา ด้วยความกล้าแห่งองค์ฤษีทั้ง7องค์ ช่วยเหลือทันที

๒.ธงชัยฝนแสนห่า ให้น้ำให้ท่าร่มเย็นเป็นสุข ผู้เรืองเดชในสวรรค์ อินทร์พรหมถึงชั้นอกนิฏฐ์ บันดาลให้ฝนตกหนัก ใจเย็นคลายร้อนทั้งกายทั้งใจ

๓.ธงชัยนารายณ์เกลื่อนสมุทร ฤทธิรุท กันภูตผีปีศาจ คนธรร เพชรพญาธร ประดามีแพ้ไพรีไม่มีมาต่อกร

๔.ธงชัยนารายณ์คลายจักร มีฤทธิ์และศักดา ทั้งเดชเดชาเหล่าศัตรู รําลึกแต่ในใจ ข้าศึกไซร้ปืนสู้ หย่อนกําลังพรั่งพรู ไม่คิดสู้เราต่อไป ถึงแม้คนใจกล้า พอเห็นหน้าก็อ่อนไป ครูเฒ่าท่านสอนไว้ แม้สิ่งใดมีประสงค์ สิ่งนั้นพลันต้องได้ สมดังใจจํานง

๕.ธงชัยนารายณ์ขว้างจักรไตรตรึงภพ มีเดชอันห้าวหาญ ดุจช้างสารไม่กลัวตาย พบช้างและปะเสือ ที่ดุเหลือทั้งโคควาย อีกทั้งโจรดุร้าย ก็อย่าได้นึกกลัวมัน

๖.ธงชัยนารายณ์พลิกแผ่นดินมีฤทธิ์ศักดิ์สินทั้งอินทรีย์ ปลอดโรคโรคามี มลายหนี มีชัยพลัน กันคุณไสย กันกระทำกันคุณกันของ

๗.ธงชัยตวาดป่าหิมพานต์ ทั่วพิภพเรืองเดชา ครานั้นจงชื่นชม คนนับหมื่นหาเห็นไม่ บังตาหายตัวได้ ปลอดภัย เดินทาง ไปได้กลับได้มีโชคมีชัยทุกทิศ

๘.ธงชัยนารายณ์แปลงรูป ทําเป็นเล่ห์ให้เขารัก เป็นเสน่ห์แก่ผู้ใช้ ทั้งหญิงชายทุกภาษา ไม่ว่าคนชั้นไหน แต่พอได้เห็นพักตรา ให้รักด้วยเมตตา ประหนึ่งว่าเป็นลูกหลาน แคล้วคลาดเหล่าศัตรู สิ้นทั้งหมู่อันธพาล กลับร้ายกลายเป็นดี ที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีก 
คาถาสี่เหลี่ยมรอบองค์หลวงปู่มีคุณถึงเพียงนี้

ด้านหลัง ฝังของดีดังนี้
ผงครูฤษีผู้มีเดชเดชาเอามามอบถวายไว้ในราชาฤกษ์ ผงดินขุยปู ใครเสมา ใครเจดีย์ ดินเสาตะลุงช้าง ตามตำราที่สำนักวัดประดู่ในทรงธรรม ตกทอดมาจากสมเด็จพนรัตน์วัดป่าแก้ว สร้างพระฯนำมาบรรจุอยู่ทั้งหมดเพื่อให้มีฤทธิ์ วิเศษเหลือล้นเกินกว่าขุมทรัพย์ใดๆในโลกา
ผงธูปเทวาประสิทธิ์ ตะกรุดนะมะนุญจิต มีอุปเทห์ว่า “มนุษทั้งหลายใครก็สู้เราไม่ได้ เราจักเป็นเจ้าคนนายคนเหนือคนเหนือมนุษย์ทั้งหมดทั้งสิ้น ร้อยไหม ๗ สี ใบลานเก่าจารอักขละครูเก่าแก่ ที่ศักดิ์สิทธิ์ทรงพลัง สายสิญจน์ 10 พิธีเกจิเสกเป็นร้อยๆรูป สายสิญจน์วัดพระแก้ว พิธีหลวงเจ้าแผ่นดินเมตตา
ผ้าขาวดาดเทวดา (ผ้าขาวเทวดาสถิต) ว่านมงคล 108 ไม้มงคล ดอกไม้108 ถั่วงาเจริญงอกงาม ทองคำเปลวปิดพระพุทธรูปที่มีลาภสักการะมากทั้ง 9 พระองค์ ของดีสารพัดอยู่บนล็อกเกตรุ่นแรก ของหลวงปู่หล่อองค์นี้เท่านั้น
ทั้งหมดทั้งมวล สรุปว่าล็อกเกต รุ่นแรกนี้สร้างดีเสกดีเกจิผู้เฒ่า ๔ แผ่นดิน สร้างเสกบรรจุมงคลวิเศษลงไป อย่างหาที่ไหนไม่ได้ ถ้าวันนี้คืนนี้ไม่เช่าหามาบูชาอย่าเอ๋ยปากว่า จะไปเอาของดีที่ไหนอีกเลย...แล

 

-ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ

 

...........

 

3782.พระผงเนื้อว่านผสมชานหมากพิมพ์รัศมี หลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพาน ให้บูชา 750 บาท ๑ ในพระเกจิอาจารย์ ๑๐๘ รูป ในพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก เมื่อปี 2515

​

อภินิหารของพระพิมพ์รูปเหมือนหลวงพ่อพันธ์ เมื่อหลายปีก่อนมีหญิงสาววัยรุ่นในตลาดวังทองหนีไปอยู่กับผู้ชายวัยรุ่นด้วยกันที่ตำบลชัยนาม ภายหลังได้มีการให้ผู้ใหญ่มาขอขมาตามธรรมเนียม เลยได้อยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นั้นเพราะพี่ชายของ หญิงสาวเป็นนักเลงถือว่าเป็นการเหยียดหยาม จนวันหนึ่งได้แอบเอาปืนลูกซองยาวไปแอบยิง เห็นผู้ชายนั่งอยู่ใต้ถุนบ้านจึงยกปืนยิงปรากฏว่า ยิงไม่ออก พอดีสุนัขที่เลี้ยงไว้อยู่ใต้ถุนบ้านดูผิดสังเกตจึงเหา จึงกลับวันรุ่งได้นำปืนที่ยิงไม่ออกสามลูกมายิงกระป๋องที่แขนไว้กับกิ่งไม้ ปรากฏว่ายิ่งออก เลยสงสัยหนุ่มน้องเขยคนนั้นมีของดีอะไรมารู้ภายหลังว่า มีพระพิมพ์รูปเหมือนหลวงพ่อพันธ์ เพียงองค์เดียว

 

3783.เหรียญ หลวงปู่จันทร์ ผสมมูลเหล็กไหล ปี 2517 ออกวัดสารนารถธรรมราม จ.ระยอง ลป.ทิม วัดละหารไร่ ร่วมปลุกเสก ให้บูชา 650 บาท

​

เหรียญรุ่นนี้มีคุณวิเศษ เนื่องด้วยได้ผสมมูลเหล็กไหลลงไป ซึ่งมูลเหล็กไหลของหลวงปู่นั้นมีอภินิหารมากมาย เล่ากันว่า มีทหารและตชด. ได้นำมูลเหล็กไหลไปทดลองยิงด้วยปืน เอ็ม16 และปืนลูกซอง 5 นัด ปรากฏว่ายิงไม่ออกเลยแม้แต่นัดเดียว

มูลเหตุความเป็นมาของเหรียญหลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต ที่ออก ณ วัดสารนาถธรรมาราม จ.ระยอง ปีพ.ศ. 2517
วัดสารนาถธรรมาราม นี้ท่านเจ้าคุณมหารัชมังคลาจารย์ (พระอาจารย์ของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม) เจ้าอาวาสวัดเกาะ วัดสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพฯ องค์ก่อนสร้างมหาปูชนียสถาน อุโบสถ จตุรมุขไว้สวยงามมาก พระประธานคือ**พระพุทโธจอมมุณี**
และต่อมาพระอาจารย์ไฉง เป็นเจ้าอาวาสก็ได้สานต่องานของท่านเจ้าคุณมหารัชมังคลาจารย์ และขระนั้นท่านได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญขนาดใหญ่ 2 ชั้น ก่อสร้างแล้วเสณ็จประมาณ 70 % ศาลาหลังนี้จะเป็นสถายที่ศึกษาพระธรรมวินัยและบาลีสงฆ์
ทางวัดก็ยังใช้ทุนทรัพย์อีกเป็นจำนวนมากจึงได้นำวัตถุมงคลบางส่วนที่เหลือจากปีพ.ศ.2506 ออกมาให้ประชาชนได้บูชา อาทิเหรียญพระประธานวัดสารนาถฯ, พระเนื้อผงหลวงปู่แหวน สุจิณโณหลายพิมพ์, และพระเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต ในปีพ.ศ. 2517
หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม อ.เมือง จ.หนองคาย ท่านเดินทางธุดงค์ไป ณ เกาะมัน กลางทะเลลึกในเขต อ.แกลง จ.ระยอง ท่านเห็นงานก่อสร้างของวัดสารนารถฯ ยังค้างอยู่
ท่านเมตตาจึงมอบมูลเหล็กไหล ให้ทางวัดนำไปผสมโลหะจัดสร้างเป็นเหรียญขึ้น และองค์ท่านก็แผ่เมตตาให้ บรรจุพุทธคุณให้เป็นพิเศษ ในปีพ.ศ. 2517

 

3784.เหรียญเซี่ยวกาง รศ.๒๒๙ เนื้อสัมฤทธิ์ (พิมพ์ปั๊ม) รุ่นแรก ทวารบาลประจำบานประตูใหญ่ด้านหน้าพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2553 ปิดรายการครับ

​

เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างเนื่องในวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๓ เป็นวันคล้ายวันประสูติของเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ศิษยานุศิษย์มีศรัทธาที่จะสร้างสิ่งมงกุฎสักการะถวายเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
เพื่อถวายพระเถรานุเถระที่รับนิมนต์สามัคคีรสเพล และเพื่อแจกศิษยานุศิษย์เนื่องในวันคล้ายวันประสูติของพระองค์ท่าน จึงขอประทานนามสิ่งมงคลสักการะนามว่า “เซี่ยวกาง” พร้อมทั้งขอประทานชนวนปวเรศเพื่อใช้ในการสร้างสิ่งมงคลสักการะครั้งนี้
โดยมีจำนวนการสร้างดังนี้
1.เนื้อนวโลหะจำนวน ๙๙๙ เหรียญ
2.เนื้อสัมฤทธิ์พิมพ์หล่อจำนวน ๙๙๙ เหรียญ
3.เนื้อสัมฤทธิ์จำนวน ๑,๙๙๙ เหรียญ
เหรียญรุ่นนี้หายากไม่ค่อยพบเพราะส่วนใหญ่ใส่ในก้นย่ามถวายพระที่นิมนต์มาฉันเพล มีตอกโค๊ตเลข ๘ ซ่อนไว้ด้านหน้ากันการปลอมแปลง ที่สำคัญคือเนื้อผสมชนวนพระกริ่งปวเรศ ปี 2530 ครับ
ประวัติ..
คำว่า"เซี่ยวกาง"มีกล่าวไว้ในจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวีว่า ในปีจุลศักราช ๑๑๕๘ (พ.ศ. ๒๓๓๙) ในสมัยรัชกาลที่ ๑ ได้สร้างพระเมรุและมีเซี่ยวกางประจำประตู
ในหนังสือ "ภาษาไทย ภาษาจีน" ของนายเฉลิม ยงบุญเกิด อธิบายไว้ว่า
"เซี่ยวกาง รูปทวารบาลคือผู้รักษาประตู มักทำไว้สองข้างประตูเข้าใจว่ามาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว อ่านว่า เซ่ากัง แปลว่า ยืนยาม, ตู้ยาม, ซุ้มยาม ทวารบาลของจีนจึงเป็นเจ้าแห่งผีทั้งหลายเชื่อกันว่าจะป้องกันภูติผีปีาจ ไม่ให้ล่วงล้ำเข้าไปได้ต่อมาจึงนิยมวาดรูปอวยซีจงและซินซกโป๊ เป็นทวารบาลวัดหรือศาลเจ้าเล่ากันว่าเมื่อพระเจ้าไท่จง (หลีซีบิ๋น) แห่งราชวงศ์ถังทรงพระประชวรในขณะที่ทรงพระประชวรได้ทอดพระเนตรเห็นแต่ปีศาจเป็นเนืองนิจและให้ให้นายทหารเอกชั้นผู้ใหญ่ ๒ นาย คือ อวยซีจง และ ซินซกโป๊มายืนเฝ้าที่หน้าห้องบรรทมจึงเป็นประเพณีนิยมในการวาดรูปอวยซีจงและซินซกโป๊ไว้สองข้างประตูวัดและศาลเจ้า"
ส่วนพระยาโกษากรวิจารย์ (บุญศรี ประภาศิริ) สันนิษฐานว่าเซี่ยวกาง น่าจะมาจากคำว่า"จิ้นกางเสี่ยว"แล้วเรียกเพี้ยนเป็น "เซี่ยวกาง"
ลักษณะของเซี่ยวกาง ไม่เหมือนเทวดาไทย
คือมีหนวดเครายาว ถืออาวุธด้ามยาวการแต่งกายผิดไปจากโขนละครของไทยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงมีพระอธิบายไว้ในหนังสือสาส์นสมเด็จ ภาค ๔ ว่า
"อันเครื่องแต่งตัวเซี่ยวกางนั้นทำให้น่าสงสัยมากหากจะดูแต่จำเพาะให้น่าสงสัยมาก หากจะดูแต่จำเพาะสิ่งที่เป็นของไทยทั้งนั้นแต่ไม่มีรูปภาพไทยอย่างอื่นแต่งตัวเหมือนอย่างนั้นเลยท่วงทีไปทางข้างแขกหรือจีน จึงได้ลองคลำถามพระจีนเจนอักษรดูได้ความว่าทางจีนจะมีรูปทำไว้ตามบานประตูเหมือนกันเรียกว่า "มิ่งซิ้น" แปลว่าเทวดารักษาบานประตูไปทางพวกทวารปาละ เสียงไม่เข้าใกล้ เขี้ยวกาง เซี่ยวกางจรีกาง อย่างใดเลย"
รูปเซี่ยวกางส่วนมากจะยืนอยู่บนหลังสิงโต ตามคติของจีนสิงโตมีหน้าที่เฝ้าตามประตูศาสนสถาน เช่น วัด โบสถ์ ศาลเจ้าเซี่ยวกางก็มีหน้าที่อย่างเดียวกัน อิริยาบถของเซี่ยวกางโดยทั่ว ๆไปจะเป็นรูปยืน มือข้างหนึ่งจับที่ปลายเครา และมืออีกข้างหนึ่งถืออาวุธเช่น รูปเซี่ยวกางที่ผนังซุ้มประตูพระอุโบสถวัดราชบพิธส่วนเซี่ยวกางที่ทำแปลกออกไปคือเซี่ยวกางที่บานประตูใหญ่วัดบวรนิเวศวิหารตนหนึ่งมือซ้ายถือสามง่าม มือขวาถือกริช เหยียบบนหลังจระเข้อีกตนหนึ่งมือขวาถือโล่ มือซ้ายถือดาบ เหยียบบนหลังมังกร
มีเรื่องเล่ากันว่าสมัยที่ยังมีหวย กข พวกเล่นหวย กข จะมาบนขอหวยกันมากเมื่อสำเร็จผลตามประสงค์ก็จะเอาฝิ่นมาป้ายที่ปาก "เซี่ยวกาง" เป็นการแก้บนบางทีจะเป็นเพราะคนจีนสมัยรัชกาลที่ ๓-๔ สูบฝิ่นกันมากคงคิดว่าเซี่ยวกางก็คงชอบด้วย ที่ปากเซี่ยวกางจึงดำด้วยฝิ่น
วัดบวรนิเวศวิหารวัดนี้มี“ประตูเซี่ยวกาง” ตรงประตูทางเข้าวัดด้านหน้าพระอุโบสถที่ได้รับอิทธิพลของจีนมาอย่างเด่นชัดโดยประตูเซี่ยวกางแห่งนี้เป็นรูปเทวดาผี ใช้ไม้แกะเป็นรูปเทวดา หนวดเครายาวปิดทองเหลืองอร่าม ตนหนึ่งมือซ้ายถือสามง่าม มือขวาถือกริชเหยียบบนหลังจระเข้ อีกตนหนึ่งมือขวาถือโล่ มือซ้ายถือดาบเหยียบบนหลังมังกรมีตำนานอยู่ในลัทธิมหายานว่าเป็นจอมแห่งเทวดาผู้พิทักษ์ประตูวัดซึ่งสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ วังหน้าในรัชกาลที่ ๓ ได้ปฏิสังขรณ์ใหม่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ตามคตินิยมแบบจีน
ส่วนที่แปลกและสะดุดตาของผู้คนที่เดินทางผ่านไป-มา ก็คือบริเวณปากของเซี่ยวกางวัดบวรนิเวศวิหาร จะมีสีดำซึ่งแม่ค้าพวงมาลัยหน้าประตูวัดเล่าว่า สมัยก่อนยุคที่เมืองไทยยังดูดฝิ่นได้มีชาวจีนคนหนึ่งติดฝิ่นงอมแงมพอต่อมาทางการได้ปราบทำลายโรงงานยาฝิ่นจนหมดสิ้น เมื่อแกหาฝิ่นดูดไม่ได้สุดท้ายเลยไปลงแดงตายตรงประตูนี้หลังจากเมื่อทางวัดมาพบจึงได้ทำพิธีกงเต๊กให้ต่อมาชาวจีนคนนั้นได้ไปเข้าฝันสมเด็จท่านเจ้าอาวาสว่าให้ทำที่ให้แกอยู่แล้วแกจะเฝ้าวัดให้ทางวัดจึงได้สร้างกำแพงทำซุ้มประตูแล้วอันเชิญดวงวิญญาณชาวจีนคนนั้นมาสถิตย์อยู่ ณ ประตูแห่งนี้

 

3785.เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่สิงห์ ปี 2518 วัดโพธินิมิต ให้บูชา 850 บาท

​

อธิษฐานจิตเดี่ยวโดยพ่อแม่ครูอาจารย์สายวัดป่า
หลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต
หลวงพ่อบุญมา วัดโนนทัน
หลวงปู่อ่อน วัดป่าสาระวัน
หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
หลวงปู่จวน วัดภูทอก

คณะกรรมการสมัยนั้น ได้ว่าจ้างโรงงานกรุงเทพฯจัดสร้าง ใช้แบบอย่างจากเหรียญกนกข้างเจ้าคุณนรฯ เมื่อลงไปรับเหรียญ ได้นำไปขอให้
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี เมตตาอธิษฐานจิตให้

นำกลับมาให้พ่อแม่ครูอาจารย์สายวัดป่าอธิษฐานจิต
หลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต
หลวงพ่อบุญมา วัดโนนทัน อุดรฯ
หลวงปู่อ่อน วัดป่าสาระวัน อุดรฯ
หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อุดรฯ
หลวงปู่จวน วัดภูทอก หนองคาย

แล้วปลุกเสกซ้ำในงานฝังลูกนิมิตร วัดโพธินิมิตร โดยมีหลวงปู่สา วัดราชนัดดา กรุงเทพฯ เป็นประธาน รายละเอียดเพิ่มเติมที่สำคัญตอนที่ให้หลวงปู่ผาง จะอธิษฐานจิตท่านถามคณะกรรมการว่าเต็มๆแล้ว มาเติมทำไม นั้นหมายถึงระดับพระอรหันต์สัมผัสได้ถึงพุทธคุณที่เต็มเปี่ยมล้นของรุ่นนี้

 

-ขอจองครับ

 

รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ

 

3786.พระกริ่ง / พระชัยวัฒน์ พิชิตมาร รุ่นทูลเกล้า ปี 2535 จัดสร้าง โดยวัดสุทัศน์ เนื้อนวะโลหะ ให้บูชา 999 บาท

​

ตามสูตร โบราณการสร้างพระกริ่งโดยจารอักขระเลข พระยันต์ 108 และ นะ14พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ชุดนี้ เป็นเนื้อสัมฤทธิ์ วรรณะแดงจัดพิธีปลุกเสก เสาร์ 5 แบบโบราณ ภายในพระอุโบสถ วัดสุทัศน์ฯโดยพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งสิ้นมาร่วมปลุกเสก จาก73จังหวัด(ขณะนั้น)และมีการเสกร่วมกันทั้งสายพระป่าและพระคามวาสี นับเป็นพิธีที่ดีที่สุดไม่แพ้ยุคสมเด็จพระสังฆราชแพในยุค2500กึ่งพุทธกาล
พระเกจิที่ร่วมปลุกเสกได้แก่
1.หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
2.หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย
3.หลวงพ่อทิม วัดพระขาว
4.หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
5.หลวงพ่อฮวด
6.หลวงพ่อลมูล
7.หลวงพ่อเปิ่น
8.หลวงพ่ออุตตมะ
9.หลวงพ่อเกตุ
10.หลวงพ่อพิมพา
11.หลวงพ่อลําใย
12.หลวงพ่อพยุง
13.หลวงพ่อสวัสดิ์
14.หลวงพ่อเอียด
15.หลวงพ่ออวยพร
16.หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
17.หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
18.ฯลฯ
พระกริ่งรุ่นนี้ถือว่าเป็นสุดยอดแห่งพระกริ่งมากด้วยพิธีอลังการอีก หนึ่งรุ่นเลยทีเดียวโดยพิธีการได้ปลุกเสก 3วัน3คืน