[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.949221/[/MUSIC] เพลงพระราชนิพนธ์ "อาทิตย์อับแสง" [SIZE=-1]ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ [/SIZE][SIZE=-1]เคยชม ร่วมภิรมย์ใจ ด้วยความรัก จริงยิ่งใหญ่ ผูกพันหัวใจเรามั่น รักเอย เคยอยู่เคียงกัน ร่ม เย็นมิเว้นวายวัน ด้วยความสัมพันธ์ยืนยง ทิวางาม ยามอยู่ เคียงคง สุริยาแสงส่ง ปวงชีวิตในโลกดำรงเริงใจ ร้างกัน วันห่างไปไกล มืดมนหมองมัวปานใด เยือกเย็นเข็ญใจรัญจวน ไกล กันพาพรั่นใจครวญ ร่างกายทรุดโทรมทุกส่วน จิตใจร้อนรวนแรงอ่อน รัก เอย เลยกลับอาวรณ์ ค่ำคืนฝืนใจไปนอน ยิ่งดูเหมือนฟอนไฟลน ทิวา ทราม ยามห่างดวงกมล สุริยาหมองหม่น ปวงชีวิตในโลกอับจนเสื่อมทราม หวัง คอย คอยเฝ้าโมงยาม จวบจนทิวาเรืองงาม สบความรักยามคืนคง Blue Day Music: H.M.K. Bhumibol Adulyadej Lyric: H.H. Prince Chakrabandh Pensiri Blue day- There’s no sunshine Why must you go away, Leaving me here alone? My own, How I miss you With loving heart so true That’s why I feel so blue Dear one, What’s the good of Days without the sun, Or peaceful nights Without the moon? But soon- No more blue day; Whenever I meet you Then all my dreams come true. Blue day- Gloomy blue day, When you are far away, Why must we be apart? Sweetheart, Dear, I love you With all my heart, I do. That’s why I feel so blue My love, Skies are so grey, Cloudy up above, Dear won’t you please Come back to me? There’II be- No more blue day. Again the sun will shine. That day I’ll make you mine. [/SIZE]<center> เกร็ดประวัติ</center> พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์เพลงนี้ในพ.ศ. 2491 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทรงเริ่มรู้จักชอบพอกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเมื่อยังทรงเป็น ม.ร.ว. สิริกิติ์ กิติยากร จาก บันทึกส่วนพระองค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ได้แสดงถึงพระเจตนารมณ์ที่ทรงประพันธ์เนื้อร้องเพลง อาทิตย์อับแสง และ เทวาพาคู่ฝัน ว่า ในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มรู้จักชอบพอกับสมเด็จพระนาง เจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเมื่อยังทรงเป็น ม.ร.ว. สิริกิติ์ กิติยากร อยู่นั้น ต่างประทับห่างไกลกัน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับแรมบนภูเขาในเมืองดาโวส์ (Davos) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประทับ ณ เมืองโลซานน์ เมื่อต้องทรงจากกันก็เปรียบเหมือน อาทิตย์อับแสง และในพระราชหฤทัยของทั้งสองพระองค์ก็คงทรงหวังให้ เทวาพาคู่ฝัน มาให้ จึงทรงประพันธ์คำร้องเพลงทั้งสองนี้ถวาย เพลงพระราชนิพนธ์ อาทิตย์อับแสงนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ฮาร์โมนิก ไมเนอร์สเกล (harmonic minor scale) อันเป็นสเกลเสียงที่แสดงถึงความหม่นหมอง เศร้าสร้อย คล้ายสำเนียงเพลงบลูส์ แม้ว่าสเกลนี้จะมีอารมณ์เพลงคล้ายบลูส์สเกล แต่จะแตกต่างตรงมีความละเมียดละไม นุ่มนวลกว่า ไม่รู้สึกแปร่งหู ดังนั้นแม้จำนำเพลงนี้ไปเรียบเรียงให้เข้ากับจังหวะลีลาศ ก็ยังคงได้ความรู้สึกที่อ้างว้าง เดียวดาย และเศร้าสร้อย พระเจ้า วรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์เนื้อร้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งความหมายใกล้เคียงกัน โดยกล่าวถึงความรักเปรียบเทียบกับธรรมชาติ ยามที่ได้อยู่เคียงคู่กัน ท้องฟ้าดูสดใส ยามไกลกันดังอาทิตย์อับแสง แต่ก็แฝงความหวังไว้ในตอนท้ายที่ว่า “จวบจนทิวาเรืองงาม สบความรักยามคืนคง” “Again the sun will shine. That day I’ll make you mine” ที่มา Bloggang.com :
ผมมีความรู้สึกว่า เพลงพระราชนิพนธ์แต่ละเพลงนอกจากจะมีความไพเราะแล้วยังมีความขลังที่เป็นเอกลักษณ์ในตัวเองเสมือนบทกวีที่มีทำนองฟังแล้วรู้สึกเคลิบเคลิ้มเหมือนถูกมนต์สกดโดยเฉพาะเพลงนี้คุณเอ๋นำมาถ่ายทอดได้อย่างไพเราะครบถ้วนได้อารมณ์ตามเจตนารมณ์ของผู้ประพันธ์จริง ๆ ครับ เพลงเกาะในฝัน ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่มีความไพเราะคิดว่าถ้าแฟนเพลงได้ฟังแล้วคงจะไม่ผิดหวังผมเลยถือโอกาสขอเพลงนี้สำหรับแฟนเพลงทุกคนนะครับ
] ทิวางาม ยามอยู่ เคียงคง สุริยาแสงส่ง ปวงชีวิตในโลกดำรงเริงใจ ร้างกัน วันห่างไปไกล มืดมนหมองมัวปานใด เยือกเย็นเข็ญใจรัญจวน ....น้องสาวที่พิษณุโลก...ขอบฟังเสียงคุณเอ๋เดี๋ยวจะโทรบอกให้ก๊อปเพลงนี้ไปฟังค่ะ...แก้วก็ขอเก็บไว้ฟังด้วยค่ะ.....เพราะมากกกกกกกกกกกกกกก