ดิฉันกับมารดา มักมีปากเสียงกันบ่อยๆทำอย่างไรดีค่ะ

Discussion in 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' started by พัทชรี, Jun 10, 2013.

Tags: Add Tags
  1. พัทชรี

    พัทชรี สมาชิก

    Joined:
    Jun 10, 2013
    Messages:
    2
    Ratings:
    +5
    พ่อและแม่ของดิฉันหย่าร้างกัน แม่เลื้ยงดิฉันกับพี่ชายมาโดยที่พ่อไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดู ดิฉันก็ไม่ได้ทำตัวเป็นคนมีปัญหา ตั้งใจเรียนจนจบปริญญาตรี แม่ดิฉันไปติดพันกับสามีของผู้อื่น โดยผู้ชายคนนี้เคยเป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือกันมาก่อน แต่เขาแต่งงานไปนานแล้ว ต่อมาดิฉันเข้าทำงาน ได้ประมาณ 3 ปี ก็เกิดอุบัติเหตุทางรถ ทำให้ไม่สามารถเดินได้เหมือนปกติ แต่ช่วยเหลือตนเองได้ ดิฉันจึงทำของขายอยู่ที่บ้าน แม่ของดิฉันเชื่อผู้ชายคนนี้มาก จนไม่ฟังคำพูดของดิฉันเลย บางอย่างที่แม่ทำไม่ถูกต้อง ดิฉันก็จะบอกด้วยเหตุผลว่า อย่าทำสิ่งนั้นเพราะอะไร แต่แม่ก็จะไม่ฟังแล้วก็บอกว่าดิฉันไม่ต้องเถียงท่าน เราจึงมีปากเสียงกันบ่อยๆ ดิฉันควรทำอย่างไรดีค่ะ เพราะตัวดิฉันเองเวลาพูดด้วยเหตุผลแต่ท่านไม่ฟังอะไรเลย ทำให้ดิฉันรู้สึกไม่ดีกับท่านไปด้วยนะค่ะ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 3
    • List
  2. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 22, 2010
    Messages:
    745
    Ratings:
    +1,911
    ขอแค่คุณทำหน้าที่ลูกที่ดีอย่างเดียวก็พอแล้ว ลูกที่ดีทำให้พ่อแม่สบายใจ ไม่ใช่เข้าไปแก้ไขปัญหาของพ่อแม่คุณต้องแยกแยะให้ถูก หรือลองเข้าไปอ่านสนทนาภาษาธรรมของดร.สนอง วรอุไร ในเว็ปกัลยาณธรรม มีปัญหาแบบนี้คล้ายกันมาถามเยอะมากค่ะ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 3
    • List
  3. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Aug 17, 2008
    Messages:
    2,046
    Ratings:
    +11,941
    เห็นใจกับสิ่งที่เกิดกับท่านจขกทครับ เรื่องที่มีปากเสียงกับแม่นั้น ท่านจขกท พึงทราบว่าไม่มีใครสามารถจะโน้มน้าวใจคนอื่น ให้เปลี่ยนแปลง และ่ทำในสิ่งที่ดี ถูกต้องหรือถูกใจใครๆได้เลย..ถ้าว่าเขาจะเปลี่ยนแปลง ทำในสิ่งที่ดีและถูกได้ ก็เพราะตัวเขามีใจจะทำเองเท่านั้น

    ดังนั้น เมื่อท่านบอกห้ามเตือนแล้ว แต่แม่ไม่ทำไม่แก้ไข ก็พึงยุติการบอกกล่าวนั้นเสีย เพราะรังแต่จะเกิดการทะเลาะทุ่มเถียงเอาชนะกันด้วยอำนาจของมานะ ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไร..เราเองทำหน้าที่ที่มีของเราให้บริบูรณ์เท่านั้นก็พอแล้ว และพยายามเก็บหอมรอมริบทรัพย์ไว้เลี้ยงดูตนเองในภายหน้า ไม่คาดหวังในทรัพย์ไรๆของแม่..

    เพราะการที่แม่ล่วงศีลเกี่ยวข้องด้วยชายมีเจ้าของ ก็คาดได้ว่าที่ชายนี้จะไม่หวังประโยชน์ในทรัพย์นี้ ย่อมเป็นไปไม่ได้ จึงคาดไม่ได้ว่าวันใดแม่จะถูกชายไร้ศีลผลาญจนหมดตัวเมื่อไร..เราจึงควรเตรียมตัวพึ่งตนเองให้มากโดยเร็วที่สุด..

    อนึ่ง พิจารณาให้ถี่ถ้วนว่า ที่เราบอกกล่าวแม่เช่นนั้น เป็นเพราะแม่ทำผิดจริงหรือเพราะแม่ทำถูก แต่ไม่ถูกใจเรา หากเป็นกรณีหลัง การเำ่พ่งโทษติเตียนแม่ย่อมเป็นบาปมีโทษควรละเสีย..

    เป็นกำลังใจให้พ้นความอึดอัดขัดเคืองไวๆครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 5
    • List
  4. jinso

    jinso เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Aug 5, 2010
    Messages:
    423
    Ratings:
    +659
    ผมเองก็โง่มาก....พ่อชอบว่าย่า.....เราสงสารย่า....เลยบอกกึ่งสอนพ่อ
    ว่าตัวก็เป็น...ไปว่าย่า....พ่อก็เฉย....เพราะไม่ทันตัวจริงๆๆๆๆๆๆจะเฉยก็ไม่เฉย
    มาคิดได้ทีหลัง.....ตัวก็ก้าวขาลงนรกไปแล้วครึ่งตัว
    สำนึกครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 5
    • List
  5. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด Staff Member ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    Joined:
    Dec 9, 2008
    Messages:
    6,247
    Ratings:
    +68,062
    สิ่งที่คุณแนะนำคุณแม่ไป เมื่อท่านไม่ เห็นด้วยกับเรา

    เราก็หยุดตรงนั้นเลยค่ะ เพราะความคิดของท่านคงไม่เหมือนกับคุณค่ะ

    คุณแม่ท่านคงมีมุมมองต่างไปอีกอย่างนะคะ

    ขอให้คุณอย่าเก็บเอามาทุกข์ใจเลยนะคะ

    ทำใจให้สบายเถอะค่ะ ในเมื่อคุณแม่เห็นชอบกับความคิดของผู้ชายท่านนั้น

    แล้วก็อีกอย่าง ท่านก็คงคิดว่า ท่านเป็นแม่ เราเป็นลูก แนะนำท่านได้ค่ะ

    แต่ระวังเรื่องอารมณ์ขุ่นมัวด้วยค่ะ จะไม่เป็นผลดีกับคุณและคุณแม่นะคะ

    หากเหตุการณ์เป็นเช่นนี้เสมอๆ ขอให้คุณทำใจปล่อยวางสักนิดนะคะ

    ทำให้เรื่องมันเบาๆ แล้วคุณจะสบายใจดีขึ้นเองค่ะ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 6
    • List
  6. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Nov 5, 2012
    Messages:
    1,271
    Ratings:
    +7,137
    ขอแสดงความเห็นใจ k.จขกท นะคะกับวิบากกรรมที่ต้องเผชิญ หากจะกล่าวถึงพระในบ้านผู้มีพระคุณที่แม้ชาตินี้จะมีสิ่งใดทดแทนพระคุณท่านได้หมด ก็หามีไม่ ที่สำคัญคุณแม่ของk.จขกท ขอชมท่านที่เลี้ยงดูคุณและพี่ชายมาจนมีวันนี้ได้เพียงคนเดียว รักคุณแม่ให้มากนะคะ สิ่งไม่ดีที่ผิดศีลธรรมซึ่งคุณแ่ม่ยังกระทำอยู่ และk.จขกท ได้บอกกล่าวท่านแล้วแต่ท่านจะเห็นเป็นเช่นไรนั้น ก็สุดแท้แต่ตัวของท่าน ขอให้นึกเอ็นดูท่านอยู่ห่างๆ เพราะตอนนี้คงไม่มีประโยชน์หากท่านไม่ทุกข์ ท่านก็จะไม่เห็นธรรม "สิ่งที่ดีควรถูกหว่านลงบนที่รองรับที่ดีเช่นเดียวกัน"ฉันใดฉันนั้น

    "ปัญญาที่เกิดขึ้นภายในชีวิตของแต่ละบุคคลนั้น เป็นภาวะที่ถูกกลั่นกรองจากการฝึกฝนอย่างถูกต้อง เป็นความสว่างไสวที่มีอยู่ในเรือนใจ ที่พร้อมจะเข้าใจกำหนดรู้ปัญหาที่มี และคลี่คลายให้บรรเทาลง กระทั่งนำไปสู่การดับสลายได้อย่างสิ้นเชิง"

    ขอให้วางทุกข์ วางใจลงเสีย และหมั่นสวดมนต์ภาวนาส่งบุญให้คุณแม่มากๆ ค่ะ เป็นสิ่งที่ทดแทนพระคุณท่านได้ดีที่สุด วิบากกรรมของท่านจะได้ถูกลดทอนลง หมั่นฝึกจิตตนเองให้มีสติและรับธรรมะของพระพุทธองค์เข้ามาไว้ในจิตใจ เพราะธรรมะของพระพุทธองค์จะคุ้มครองคุณอยู่เสมอนะคะ ดิฉันเชื่อว่าวันนึง อีกไม่นานนี้ k.จขกท.จะต้องใช้ธรรมะ รักษากายและรักษาใจของคุณแม่ของคุณแน่ๆ ค่ะ ขอให้สร้างฐานบุญของตนเองให้แข็งแรง บุญนั้นจะช่วยให้คุณแม่ก้าวผ่านความทุกข์ไปได้พร้อม ๆ กันกับคุณค่ะ เอาใจช่วยสุดฤทธิ์ค่ะ..เพราะดิฉันเองก็มีปัญหากับคุณแม่เหมือนกันค่ะ และดิฉันกำลังจะลอกคราบปัญหาด้วยปัญญาภายในที่ดิฉันพอมี..ให้เกิดกุศโลบายนำพาธรรมะเข้าหาคุณแม่ก่อน..และก็คาดหวังว่าวันนึงนั้น คุณแม่จะน้อมนำพระธรรมคำสอนสู่ใจของท่านด้วยตนเอง ** หลวงพ่อจรัญ ท่านสอนไว้ว่า สวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน ** เดินตามรอยพระพุทธองค์มีแต่ได้กับได้นะคะ.. :) พวกเราเอาใจช่วย..สู้สู้ค่ะ ^^
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 6
    • List
  7. พัทชรี

    พัทชรี สมาชิก

    Joined:
    Jun 10, 2013
    Messages:
    2
    Ratings:
    +5
    ขอบคุณทุกๆท่านที่มาชี้แนะนะค่ะ ตอนนี้คิดได้ และสบายใจขึ้นมากเลยค่ะ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 2
    • List

Share This Page

Loading...