หลวงพ่อปานปราบโรคระบาด โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง เดือนกรกฏาคมเป็นเดือนที่ตรงกับวันเกิด 16 ก.ค. 2418 และวันมรณะภาพ 26 ก.ค. 2481 ของหลวงพ่อปาน โสนันโท จึงขอนำเรื่องราวของหลวงพ่อปาน เล่าโดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง มานำเสนอ สำหรับในคืนนี้ก็จะนำเอาเรื่องของการบรรเทาโรคระบาด มาเล่าให้บรรดาลูกหลานฟัง เรื่องราวของโรคระบาด ก็คืออหิวาตกโรคนี่จัดว่าเป็นโรคสำคัญ ชาวบ้านเขาเรียกว่า โรคห่าลง เพราะว่าตายกันเป็นตับจนพระเบื่อการบังสุกุล เพราะว่าตามธรรมดาพระเองแกก็กลัวตายเหมือนกัน เวลาที่ไปบังสุกุลกลับมาปรากฏว่าพระกลัวผีกันหลายราย หวาดหวั่นต่อความตาย ถ้าหากว่าโรคระบาดมันจะเกิดขึ้นเมื่อไร ตอนก่อนที่โรคระบาดจะเกิด หลวงพ่อปานก็มักจะสั่งพระว่า เวลาพระไปบิณฑบาตให้บอกชาวบ้านทุกบ้าน ทำขนมจีน แล้วก็มัดข้าวต้มลูกโยน ข้าวต้มที่เขาใส่ในข้าวด้วย กล้วยทำเป็นลูกเล็กๆ ห่อด้วยใบลำเจียก มัดเป็นพวงๆ ทั้ง ๒ อย่างนี้ให้ไปไว้ที่หลังบ้าน แล้วนอกจากนั้น ค่อยปั้นรูปคน รูปวัว ควาย ถ้ามีวัวมีควายก็ปั้นวัวควายไว้ด้วย ตามจำนวนของบ้านนั้น ให้ไปวางไว้หลังบ้าน คนทุกคนให้เอาผ้าเล็กๆ สีแดงทำเป็นผ้านุ่ง ปั้นเป็นตุ๊กตาเล็กๆ ใส่กระจาด พร้อมด้วยข้าวต้มลูกโยน และขนมจีนไปไว้ด้วยกัน แล้วท่านก็สั่งให้บูชาเจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลาย ให้เว้นจากการลงโทษ นี่ทำกันมาเป็นประเพณี ปรากฏว่าก่อนโรคระบาดจะเกิดประมาณสัก ๗ วัน ทุกครั้งหลวงพ่อปานจะต้องสั่งแบบนั้น แล้วคำสั่งของท่านรู้สึกว่าได้ผล ชาวบ้านทุกบ้าน ทำตามทุกคน ในเมื่อทำแล้วไม่ช้าก็ปรากฏว่าโรคระบาด คืออหิวาตกโรค เกิดขึ้นในตำบลใกล้เคียง แล้วก็ตายกันอย่างขนาดหนัก แต่ว่าตำบลที่หลวงพ่อปาน สั่งให้ทำแบบนั้นไม่มีใครตาย และไม่เกิดโรคระบาดแบบนั้นเลย นี่ก็เป็นเรื่องอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่ง ฉันเองก็ไม่เคยถามท่าน ไม่เคยถามว่าวิธีแบบนั้นทำกันอย่างไร หลวงพ่อปานท่าน ทำอย่างนั้นเพื่อความประสงค์อะไร แต่ว่าเรื่องความประสงค์ เห็นจะมีอยู่อย่างเดียวคือ ไม่ให้ชาวบ้านแถวนั้นเป็นโรคระบาด แต่ทว่าท่านจะตกลงกับใคร ใครสั่งให้ท่านทำแบบนั้น อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน นี่เป็นเรื่องที่ไม่รู้นะ แล้วก็พระส่วนใหญ่ คือว่าพระเราธรรมดาๆนี่น่ะ ไม่เคยมีใครทำกัน นอกจาก หลวงพ่อเนียม ที่เคยได้ยินข่าวเป็นแต่เพียงบอกว่า ไอ้พวกโรคห่ามันจะมากินชาวบ้าน ท่านไม่ยอมให้มันกิน นี่มีเท่านั้น แต่ทว่าองค์อื่นท่านจะทำบ้างหรือเปล่า อันนี้ฉันไม่รู้ องค์อื่นท่านมีความรู้ความสามารถอาจจะมี ที่มา : ศูนย์พุทธศรัทธา
เรื่องแบบนี้ก็ฟังไว้ประดับความรู้ เพื่อให้มีสติและหนทางเสริมในการป้องกันโรค ไม่ว่าจะสวดมนต์ หรือพิธีทางศาสนา ล้วนแต่มีประโยชน์ และน่านับถือยิ่ง อนุโมทนาด้วยครับ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกท่านยังคงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรการทั้งหลาย อย่างมีสติ และรู้เท่าทัน อย่าหวังพึ่งแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียว เห็นหลายที่พูด ๆ กันว่าไม่ต้องกลัวโรคระบาด เพราะมีท่านที่นับถือจะปกป้อง ผมว่าคิดอย่างนี้ดีกว่าครับว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน สิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจคุ้มครองได้ แต่ก็ไม่เกินกฎแห่งกรรม กรรมก็มีทั้งกรรมเก่าที่ประกอบมาแต่ชาติปางก่อน และกรรมในปัจจุบันขณะคือการปฏิบัติตัวในสถานการณ์โรคระบาดให้ถูกต้องและเหมาะสมตามหลักวิชาการ