ประวัติ อ.เทพย์ สาริกบุตร อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ถือกำเนิดเมื่อวันที่มิถุนายน ๒๔๖๒ เป็นบุตรของคุณพ่อน่วมและคุณแม่เป้า สาริกบุตร(อินทพร) มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๕ คน ๑ ชาย(เสียชีวิตตั้งแต่ยังเยาว์) ๒ นายถวิล สาริกบุตร ๓ นางปรานี จำนงภูมิเวท ๔ นายเทพย์ สาริกบุตร ๕ นายบุษย์ สาริกบุตร เมื่ออาจารย์เทพย์ได้แสดงถึงลักษณะพิเศษตั้งแต่ตอนคลอด กล่าวคือมารดาท่านเล่าว่ารกของท่านมีลักษณะเป็นหมวกครอบศีรษะออกมาเป็นที่พิสดาร คุณหลวงวิศาลดรุนกร(อั้น สาริกบุตร)ซึ่งเป็นโหราจารย์ที่มีชื่อเสียงและมีศักดิ์เป็นลุงของท่านจึงตั้งชื่อท่านว่า“เทพย์”และกล่าวเป็นคำขันว่า“เจ้าหมอเทพย์คนนี้น่ากลัวมีวิชาดีเอาติดตัวมาเกิดด้วย”ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้น โดยอาจารย์เทพย์ท่านมีความสนใจในทางโหราศาสตร์และไสยเวทย์ตั้งแต่ยังวัยรุ่นผิดจากเพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวกัน เนื่องจากท่านเห็นความสำคัญของศาสตร์เหล่านี้ว่า“เป็นวิชามรดกของไทย บรรพไทยถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ” ซึ่งท่านอาจารย์เทพย์ก็ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการศึกษาหาความรู้จากศาสตร์แขนงนี้และเสาะแสวงหาครูบาอาจารย์เพื่อขอถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่ท่านทั้งพระสงฆ์และฆราวาส โดยตัวท่านเองก็ได้พื้นฐานมาจากทางบ้านของท่านโดยวิชาโหราศาสตร์สากลท่านได้รับการถ่ายทอดจากคุณหลวงวิศาลดรุนกร ส่วนพันเอกหลวงธรณีนิติญาณ(สวัสดิ์ อินทรพล)ซึ่งเป็นลุงอีกท่านหนึ่งทางฝ่ายมารดาของท่านอาจารย์เทพย์ ได้ถ่ายทอดวิชาหมอดูและโหราศาสตร์ไทยให้แก่ท่าน ส่วนทางไสยเวทย์ท่านได้เสาะหาอาจารย์เก่งมากมาย ที่กล่าวถึงในหนังสือที่ระลึกพระราชทานเพลิงศพของท่านมีสองท่านคือพระอาจารย์สี วัดมณีชลขันธ์ ลพบุรี และอาจารย์ผาด นอกจากนี้จากการสอบถามผู้รู้ยังได้ทราบว่าท่านยังมีอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาให้กับท่านอีกหลายท่านเท่าที่พอจะรวบรวมได้ เช่น เจ้าคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศน์ซึ่งเป็นผู้ที่สืบทอดตำนานการสร้างพระกริ่งต่อจากสังฆราชแพและเป็นผู้เคยได้รับการยกย่องว่ารอบรู้ในสรรพวิชาจนกระทั่ง “ไม่มีคาถาอาคมบทใดไม่เคยผ่านสายตาท่านมาก่อน”ซึ่งนอกจากท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)จะได้ถ่ายทอดวิชาอาคมให้แก่ท่านแล้วยังได้ถ่ายทอดวิชาการสร้างพระกริ่งสายวัดสุทัศน์ให้แก่อาจารย์เทพย์อีกด้วย นอกจากนี้ท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)ยังได้พาอาจารย์เทพย์ไปฝากกับพระพุทธวิถีนายกหรือหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วเพื่อขอเรียนวิชาทำเม็ดยาจินดามณี พระบูชาไม้โพธิ์นิพพานปางห้ามสมุทร ประคำปราบหงสาและประคำนารายณ์ตรึงไตรภพอีกด้วยซึ่งอาจกล่าวได้ว่าท่านอาจารย์เทพย์เป็นศิษย์ฆราวาสคนสุดท้ายของหลวงปู่บุญก็ว่าได้ อาจารย์อีกท่านหนึ่งที่ท่านอาจารย์เทพย์ให้ความนับถือเป็นอย่างมากก็คือหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวนซึ่งหลักฐานที่แสดงถึงความเคารพในตัวหลวงปู่รอดก็คือที่บ้านของอาจารย์เทพย์ท่านทำบันไดพิเศษไว้ให้หลวงปู่รอดสามารถขึ้นชั้นสองได้เลยโดยไม่ต้องรอดผ่านตัวบ้านชั้นล่าง ท่านอาจารย์เทพย์ยังได้ศึกษาภาษามอญจากหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ปทุมธานี(แต่ไม่แน่ใจว่าได้ขอเรียนผงสิบสองนักษัตรหรือไม่) ส่วนครูบาอาจารย์ท่านอื่นของท่านยังมีอีกมากไว้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมาเผยแพร่ต่อไป ส่วนสหายธรรมหรือสหธรรมิกของท่านที่ไปมาหาสู่แลกเปลี่ยนวิชากันก็มีหลายท่าน เช่น หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ หลวงพ่อเทียม วัดกษัตริย์ตรา ซึ่งได้พบกันตอนที่อาจารย์เทพย์ไปเรียนวิชาที่สำนักวัดประดู่ทรงธรรม หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง(เป็นญาติฝ่ายมารดาของท่าน) สำหรับหลวงปู่โต๊ะนี้บางทีท่านยังไปทำผงลบผงที่บ้านอาจารย์เทพย์เลยทีเดียว นอกจากท่านจะเสาะแสวงคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านแล้วอาจารย์เทพย์ยังทำการค้นคว้าจากสมุดข่อย ใบลาน คัมภีร์และตำราโบราณต่างๆทั้งจากหอสมุดแห่งชาติและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทำให้ท่านมีความรู้อย่างกว้างขวาง เมื่อเจ้าคุณศรี(สนธิ์)มีความคิดที่จะรวบรวมและชำระตำรับตำรารวมถึงวิชาความรู้ต่างๆจึงได้เชิญท่านอาจารย์เทพย์มาเป็นผู้ช่วย แต่ท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)ก็ได้มามรณภาพเสียก่อนที่จะทำการรวบรวมได้สำเร็จการดำเนินการต่างๆจึงพักไว้ชั่วคราว จนภายหลังเมื่อมีโอกาสท่านอาจารย์เทพย์จึงได้จัดการสะสางวิชาการต่างๆต่อจนแล้วเสร็จและได้จัดพิมพ์เผยแพร่เพื่อสืบทอดวิชาต่อไป ซึ่งได้แพร่หลายมาจนถึงปัจจุบันและยังมีเกจิอาจารย์หลายท่านใช้ตำราของอาจารย์เทพย์เป็นแนวทางในการศึกษาวิชาทางไสยศาสตร์ หลายๆท่านที่เคยได้ยินและได้ศึกษาตำราของท่านอาจารย์เทพย์คงเข้าใจว่าท่านเองมีลักษณะคล้ายกับบรรณารักษ์คือเป็นผู้ดูแลและรักษาจัดรวบรวมหมวดหมู่ตำราแต่เพียงเท่านั้น แต่จริงๆแล้วนอกจากจะเป็นผู้ที่แตกฉานตำราและวิชาการต่างๆทั้งทางโหราศาสตร์และไสยศาสตร์แล้วท่านท่านยังสามารถทำได้จริงและได้เคยแสดงให้ลูกศิษย์ได้เห็นกันหลายครั้ง เคยรับคำท้าท่านอาจารย์นิรัตร์(หนู) แดงวิจิตรเรื่องสะเดาะกลอนโดยรับแม่กุญแจมาภาวนาคาถาแล้วตบแม่กุญแจจนถึงกับแตกปัจจุบันแม่กุญแจอันนี้ยังอยู่ที่บ้านท่านอาจารย์นิรันตร์(หนู) แดงวิจิตร เคยจัดพิธีอาบน้ำมันเดือดที่วัดแคโดยท่านอาจารย์เทพย์อาบให้ดูก่อนแล้วถามหาอาสาสมัครอาจารย์ตุ๊กแก(ถนอม ศรหุนะ) อาสาเป็นคนแรก ท่านอาจารย์เทพย์เห็นเป็นคนใจถึงจึงรับไว้เป็นลูกศิษย์ เคยให้พระอาจารย์ติ๋ววัดมณีชลขันธ์เข็นรถออกมาหน้าบ้านผู้หญิงเดินผ่าน ๒ คน ท่านอาจารย์เทพย์ภาวนาคาถาแล้วเป่าใส่ผู้หญิงทั้ง ๒ คน เข้ามาหอมแก้มท่านอาจารย์เทพย์เป็นการใหญ่ นอกจากนี้ท่านอาจารย์เทพย์ยังมีส่วนร่วมตลอดจนถึงเป็นเจ้าพิธีฝ่ายฆราวาสในการหล่อพระกริ่งที่สำคัญและเป็นที่นิยมเล่นหากันในปัจจุบันหลายรุ่นด้วยกัน เช่น พิธีหล่อพระกริ่งจอมสุรินทร์ ปี ๒๕๑๓ พิธีหล่อพระกริ่งเอกาทศรถ ปี ๒๕๑๓ พิธีจักรพรรดิ์ จังหวัดพิษณุโลก ปี ๒๕๑๕ พิธีหล่อพระกริ่งชินบัญชร วัดละหารไร่ ปี ๒๕๑๘ พระกริ่งจิคุตโต หลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์สุตาธิการี หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง ฯลฯ แม้จะมีคุณวิเศษและสำเร็จวิชาหลายประการแต่ท่านอาจารย์เทพย์ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงกฎแห่งธรรมชาติไปได้ ท่านอาจารย์เทพย์ได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๓๖ นับเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญในวงการโหราศาสตร์และไสยศาสตร์ท่านหนึ่งของเมืองไทย