สวัสดีค่ะ.. วานก่อนฟังที่อ่านพระไตรปิฏก เสียงดีมากมาย พยายามต่อไปนะคะ แพน้อยลองอัดไว้เหมือนกัน แต่ช่วงนี้คอเจ็บข้างห้องเค้าพ่นควันใส่เป็นมาอาทิตย์ได้แล้ว ไว้หายก่อนจะลองอัดใหม่นะคะ
[IMG] http://www.youtube.com/v/LSfq1N8vcuc...</param><embed <<< ว่าด้วยการเปรียนแปลง สภาวอากาศด้วย พลังงาน Scalar Energy Vortex
ขอบคุณ คุณหอยดำมากคะ ที่ช่วยอธิบายให้ฟัง ใช่คะ การวรรคของประโยค บางครั้งก็ไม่ได้วรรคตามหลักภาษาฯ แต่ให้วรรคตามความเข้าใจความรู้สึกและประมาณลมของเรา และเสียงที่เพราะที่สุด คือเสียงธรรมชาติ แต่ต้องเป็นธรรมชาติของคนเสียงดีด้วยนะคะ สุขภาพเสียงดี ไม่ขึ้นจมูก ไม่เสียงญ่าย อะไรประมาณนั้น ได้ประโยชน์มากเลยคะ เพราะชอบอ่านนิทาน และเล่านิทาน รวมถึงอ่านหนังสือให้ลูกฟังด้วยคะ และเค้าจะตั้งใจฟังมาก ไม่ว่าเราจะเล่าอะไร พูดอะไร หรืออธิบายอะไร หวังว่าคุณหอยดำ คงมีผลงานให้ติดตามอยู่อีกเรื่อย ๆ นะคะ
ไม่ได้ ขยันคะ เเค่ ทำ งาน ณ ปัจจุบัน ในสิ่งที่เรา ชอบ เเละ จดจ่อ จนเกิด เป็น ฌาน เพราะ สันโดษ ทำได้ ต่อเนื่อง และ จิตสงบ และ มีความสุข กับ สิ่งที่ทำ ณ ปัจจุบัน นะเอย นะเอย
อ่า...^^ คุณเพียงนามกล่าวเกินไปแล้วขอรับ ถ้าอ่านไม่คล่องปาก ซึ่งอาจเป็นเพราะภาษาที่เราไม่ชินให้อ่านไปก่อนหนึ่งรอบ หรือสองรอบ แล้วเราจะเห็นว่ามีข้อความที่ซ้ำๆเดิมๆ คล้ายๆกับบทสวดมนต์ พอเราอ่านผ่านไปสักพักจะรู้สึกคล่องขึ้น ถ้าไม่ได้จริงๆไม่รู้ว่าจะหายใจตรงไหน หรือวรรคตรงไหน ลองทำแบบนี้ดูนะครับ รอบแรกที่อ่านไว้แล้ว ให้เราเคาะวรรคเอาไว้ อาจทำตัวหนังสือให้สีแตกต่างกันในแต่ละวรรค จะได้สะดวกในการประมาณลมในปอดตัวเอง เวลาบันทึกเสียงถ้าอ่านผิด ก็อ่านอันที่ถูกต่อไปเลย จะได้ไม่ต้องบันทึกใหม่บ่อยๆ เมื่ออ่านจบแล้ว จึงตัดข้อความที่อ่านผิดนั้นออก น้ำเสียงและอารมณ์จะได้ต่อเนื่อง ถ้ามาอ่านซ่อมทีหลัง ความหนักเบาอาจจะไม่เท่ากันครับ ^^ ลองดูข้อความย่อหน้าข้างบนนะครับที่ผมทำตัวหนังสือสีแดงสลับสีดำเอาไว้ ทำแบบนี้จะสะดวกเวลาอ่านบันทึก การพูด หรือการอ่าน อาจไม่ต้องแบ่งวรรคให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทยมากนัก ถ้าแบบนั้นลมในปอดเราอาจจะไม่พอ บางครั้งอ่านไปสามสี่คำก็วรรคได้แล้ว เพื่อให้การอ่านมีจังหวะจะโคน และมีน้ำหนักชวนฟัง อ่านให้ชัดถ้อยชัดคำด้วยน้ำเสียงธรรมดาของเราที่ไม่ต้องพยายามบังคับให้เสียงสวยหรือเสียงหล่อ มีคนบอกผมว่าเสียงที่ดีที่สุดคือเสียงธรรมชาติของเรานี่เอง การอ่านเร็วเกินไปอาจไม่เหมาะกับงานนี้ เพราะเสียงของเราจะกระชากความรู้สึกของผู้ฟังทำให้ไม่มีสมาธิในการฟัง เช่นกันถ้าเราพยายามอ่านให้มันเยิ่นเย้อหรือยานคางเกินไป ก็อาจทำให้น่าเบื่อได้ เอาแค่ช้าพอให้ชัดถ้อยชัดคำ มีน้ำหนัก สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือวิญญาณของตัวละครที่เรากำลังสวมอยู่ เหมือนการแสดงเลยครับ แต่เนื่องจากเป็นการอ่านพระไตรไม่ใช่การพากย์หนังจึงจำเป็นต้องใช้เสียงเดียว เลือกเสียงที่มีความสุขที่สุดของเรานั่นแหละครับ นึกถึงผู้ฟังที่เป็นเด็กๆ ตาบอด เราเป็นพี่เลี้ยงอ่านพระธรรมให้ฟัง แล้วเสียงของคุณก็จะกลายเป็นเสียงพี่เลี้ยงใจดีขึ้นมาทันที ^^ ผมขอตอบตรงนี้ละกันนะครับ ส่วนถ้าคุณเพียงนามจะก๊อปไปวางในกระทู้ก็ไม่ว่ากัน มีบางคนรู้สึกว่าผมเก๊กเสียงหล่อให้สาวกรี๊ด ^^ (ซึ่งอยากจะบอกว่ามันไม่จริง ฟังดีๆจะรู้ว่าผมไม่ได้เก๊กเลยแม้แต่น้อย อ่านบรรทัดข้างบนจะรู้ว่ามันไม่ต้องเก๊ก ^^ ) ถ้าผมไปเขียนเหมือนสอนชาวบ้านเดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ขอบคุณที่ให้เกียรติครับ ^^
ว่ามีเรื่องจะถามเจ้าคะ เพราะเมื่อวานฟังเสียงคุณหอยแล้วเพียงนามก็อ่านตาม ออกเสียงไปด้วยคะ แต่มีที่ไม่ค่อยเนียนก็คือ เรื่องการแบ่งวรรคตอนคะ เลยอยากจะถามเรื่อง การแบ่งวรรคตอน เพราะคุณหอย ได้แบ่งวรรคตอนที่ทำให้เข้าใจง่าย คำไม่ถูกตัด และสละสลวยมาก ๆ คะ ช่วยบอกในนี้ด้วย และ ช่วยบอกในห้องเสียงอ่านพระไตร ในกระทู้ของคุณหอยด้วยคะ เพราะคิดว่าท่านอื่นอาจได้รับความรู้และประโยชน์เรื่องนี้ด้วย