ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jarujun, 21 มกราคม 2015.

  1. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์รีบล้มตัวลงนอนหน้าแท่นประทับ แม้นจักรู้สึกเหนียวตัวนัก แต่ก็ข่มใจหลับไปอย่างรวดเร็ว
    หลับอย่างรวบเร็ว คือรวมจิต มาไว้ที่กึ่งกลางอก ในใจนึกถึงภาพที่จับจิตจับอารมณ์ ภาพนั้นของสิงห์คือขรัวอินทร์

    สิงห์ตื่นด้วยหูแว่ว เสียงน้ำกระทบดิน เห็นทหารยืนยามห่างที่ประทับ สิงห์มองหลังฉากที่ประทับ ที่ตอนนี้ปิดม่านอยู่ ก็เลยเดินไปตามเสียงนั้น ก็พบเจ้าหอหน้าทรงสรงน้ำ อยู่ด้านหลัง ทรงสรงน้ำอย่างรวดเร็ว เมื่อทอดพระเนตรเห็นสิงห์ ทรงพยักพระพักตร์สิงห์จึงเดินเข้าไปไกล้ แล้วทรงเขวี้ยงขันกะลานั้น สิงห์รับอย่างว่องไว แล้วเข้าใจทันที รีบจ้วงกะลาลงในตุ่มดินเผาสีส้มอย่างบ้านชาวบ้าน รีบอาบน้ำชำระกาย รวดเร็วอย่างทหาร ที่เยื้องๆตุ่ม มีไม้สามอันมัดไว้ตั้งจากพื้น สิงห์นำชุดทหารแลผ้าจากราวไม้นั้นมาแต่ง เจ้าหอหน้าทรงดำเนินไปหน้าแท่นประทับ ได้ยินเสียงไก่ขันแว่วมา สิงห์ให้งวยงงนัก ใยมีไก่ในลานรบ
     
  2. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์เอากิ่งข่อย มาขัดฟัน แล้วรีบตามไปที่แท่นประทับ ที่ให้ประหลาดใจกว่า คือเจ้าหอหน้าทรงอุ้มไก่หางยาวลักษณะดีไว้แนบอก แลยังทรงใช้พระหัตถ์ลูบหัวไก่ช้าๆ
    สิงห์นั่งลงกับพื้นข้างที่ประทับ ยังมิทันจะนั่งดี เจ้าหอหน้าก็ตรัสพระสุรเสียงเรียบต่ำ ซึ่งในกาลถัดมาเมื่อสิงห์ได้ยินพระสุรเสียงโทนนั้น ก็ให้รู้ทันทีว่า ตนได้ทำการใด อันไม่ต้องพระทัยเป็นแน่

    "เป็นบ่าวไม่รู้กาละ ตื่นหลังนาย หากเป็นเพลาศึก แม้แต่รอยเท้าม้าคงมิเหลือให้เจ้าตาม คงจักถูกทิ้งเป็นแน่ ผิดใจข้านัก ข้าให้นอนก็จักนอน จักต้องสั่งให้ตื่นจึงจักตื่นได้ฤา มิมีหัวคิด "

    สิงห์ยังมิทันจักได้กล่าวแก้ตัว ก็เห็นพระอนุชาควบม้าเข้ามาพร้อมทหารติดตาม
    "พระอนุชาทรงเสด็จมาจากที่ใดฤา เจ้าพี่" สิงห์รีบเบนเรื่อง

    เจ้าหอหน้าเหมือนจะรู้ใจสิงห์ ตรัสตอบว่า"พระอนุชา เมื่อเสร็จศึกยามวิกาล ก็รีบกลับเข้าวัง ไปจัดการเรื่องในวังแทนข้า เพลาเช้ารีบจัดการ แล้วมาเฝ้าข้าดั่งคนรู้จักหน้าที่ ข้าว่าพระอนุชาคงจักตื่นเช้ากว่าข้านัก ด้วยเกรงพระอาญา"

    สิงห์ไม่รู้จักตอบการใด รีบก้มหน้านิ่ง ด้วยรู้ว่ายิ่งพูด พระอารมณ์ยิ่งไม่สงบ

    "ไก่มันยังรู้หน้าที่ ตื่นมาขันปลุกผู้คน"

    chicken2.jpeg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • chicken.jpeg
      chicken.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      8.8 KB
      เปิดดู:
      178
  3. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์รู้สึกประหม่า เจ้าหอหน้า ก็ทรงตวัดพระเนตร
    " มันน่าลงอาญานัก ข้าจะเว้นให้ซักครา ข้าจักชนไก่เช้านี้ มิอยากขุ่นใจ"

    พระอนุชาเข้ามาถวายบังคม แล้วประทับตั่งข้างๆ เจ้าหอหน้า

    สิงห์มองไปที่ลานกว้าง หน้าที่ประทับ ตอนนี้มีทหารเข้ามาถวายบังคม
    บางคนก็หอบไก่ติดตัวมาด้วย แล้วนั่งล้อมเป็นวงกลม ดั่งจักประลองศึก
    เจ้าหอหน้าทางพระดำเนินไปไกล้วงนัก ยังทรงอุ้มไก่งามนั้นไว้แนบอก
    เจ้าไก่ ไม่กระดุกกระดิก มีเพียงอาการกระพริบตานัก สิงห์แอบคิดในใจว่า
    จักตีเก่งฤา ไก่เจ้าหอหน้า ดั่งไก่สัปหงก

    เจ้าหอหน้าพยักพระพักตร์ให้ทหารที่นั่งคุกเข่า อุ้มไก่อ้วนพีตัวหนึ่ง หางยาว แต่หางมีรอยขาดวิ่น
    ดูแลพยศนัก มันขยับคออยู่ตลอด เหมือนพร้อมเข้าตีตลอด

    ทหารก็ปล่อยไก่ตนนั้น ลงกลางลานประลอง มันวิ่งเข้ากางลาน กางแผนคอ ขาวิ่งสับเร็วนัก

    เจ้าหอหน้า ทรงโยนไก่ในพระอุระ ลงไป มันกางปีกร่อนลง เท้าของมันแผ่ลง เจ้าตัวที่พื้นก็บินขึ้นอย่างไก่ชนแท้ เพื่อเตรียมตี

    แล้วไก่ทั้งสองก็ชนกันอย่างดุเดือด ไก่ทหารวิ่งเข้าใส่ ร้องเสียงแหลม ผลัดกันจิก เดินวนเป็นวงกลม แล่นถลาลม จิกกันอย่างดุเดือด ตอนแรกไก่ทหารสู้ ไก่เจ้าหอหน้า เอาแต่วนหลบ จนเจ้าไก่ทหารเริ่มล้า ไก่ของพระองค์ก็ผงกหัว เผด็จศึก กางกงเล็บเท้าตะปบคอ ขามันเน้นตะปบที่คอไก่ทหาร จนโงหัวไม่ขึ้น แล้วตามจิกไม่ยั้ง เจ้าไก่ที่ดูเชื่องๆเมื่อเจ้าหอหน้านิ่ง ช่างดุดันนัก โจมตีจุดอ่อน ไม่ให้โอกาสคู่ต้อสู้แก้ตัว

    จนเจ้าหอหน้า ทรงยกพระหัตถ์ขึ้น เป็นสัญญาน ทหารก็รับมาอุ้มไก่ชนของตนเข้าไปกอดแนบอก หัวไก่ดูอ่อนลง เนื้อตัวสั่น ขนแหว่งไปเสียหลายที่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2019
  4. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ไก่ชนของเจ้าหอหน้า เดินวนๆ อยู่อย่างไว้เชิงเจ้าหอหน้าทรงพยักพระพักตร์ให้สัญญานที่อุ้มไก่อีกตัวไว้ ตัวนี้ลักษณะดีทีเดียว ตัวใหญ่ อกกว้าง แผงคอสวย ไก่สะบัดแผงคอขู่ไส่กันเพียงครู่ ไก่เจ้าหอหน้า ดั่งไก่มีครู มียกขาแลกงเล็บ ดั่งตวัดเตะคู่ต่อสู้ ครานี้มันเปิดศึกก่อน เตะรัวไม่นับ แล้วโผปีก ลงมาเตะคอจุดอ่อน จากนั้นก็ก้มจิกกด ไม่ให้ได้ผจกหัวขึ้นมาสู้ ขนเริ่มปลิวว่อนกลางลานสู้

    สิงห์ได้แต่ลอบมองทหารเจ้าของไก่ ที่เหงื่อตก หน้าตาดูเป็นกังวล แต่ไม่กล้าอุ้มไก่ตนขึ้น ด้วงเกรงพระอาญา

    เจ้าไก่ทหาร โดนเข้าไปหลายยก แต่ไม่ถอดใจ คอมันเริ่มมีเลือดไหลซึม สิงห์เห็นเจ้าของไก่เริ่มตาแดงแต่ก็ยังร้องเชียร์ไก่ตน

    เจ้าไก่แม้จักเหมือนหมดทางสู้ แต่เมื่อได้ยินเสียงทหารเจ้าของตน ก็เหมือนมันฮึดสู้ กางปีกยกขาขึ้นเตะเปะปะ สู้แบบยอมตาย แต่อย่างไรก็แพ้ทางไก่ของเจ้าหอหน้า

    เจ้าหอหน้ายกพระหัตถ์ขึ้นเป็นสัญญาน ทหารเจ้าของไก่ รีบมารวบช้อนอุ้มไก่ตน

    เจ้าหอหน้า ให้โอวาทเหล่าทหารที่อยู่ในบริเวณลานนั้น

    "ข้าอยากให้เจ้าเอาไก่เป็นเยี่ยง เพลานี้พวกเจ้าก็เป็นดั่งเช่นไก่ของเจ้า ยังไม่เจนสนาม
    จักชนเยี่ยงไรก็แพ้ ที่ข้ากรำฝึกพวกเจ้าทั้งวันแลคืน เพื่อให้เจ้าไม่ตื่นศึก ดั่งไก่ข้าเลี้ยง
    จงรู้จักออมแรง ออมใจ แม้ถึงเวลาต้องตีต้องรบ จักได้รบต่อไม่เพลียสนาม ไม่ยินดีกับชัย
    รบด้วยสายเลือดนักรบ ชนะก็มิผยอง ระแวดระวัง พร้อมรับทุกเพลา ไปจัดกิจตามหน้าที่ เพลานี้ข้าจักเจรจาพ่อครูดาบ"

    เหล่าทหารรับโอวาท ถวายบังคมกลับ มีทหารมาอุ้มไก่เจ้าหอหน้าไปดูแลต่อ ดั่งเจ้าหอหน้าว่า
    ไก่ตัวนั้นดูสงบ ดั่งคนละตัวกับยามที่ชน ที่ดุดันนัก
     
  5. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เจ้าหอหน้าประทับที่ตั่ง พระอนุชาลงประทับตั่งของตน ทหารคลานยกสำรับหลวงเข้าวางให้สองพระองค์ ครานี้ทรงเสวยคนละสำรับ

    ของสิงห์ก็มีทหารนำสำรับมาให้ สิงห์มองอาหารในสำรับ มีแกงเขียวหวานไก่ เนื้อแดดเดียวทอด กับข้าวหอมกรุ่น ให้น้ำลายสอนัก
    เสียงเจ้าหอหน้าตรัสว่า
    "แกงเขียวเผ็ดนี้ แลเนื้อเค็ม ต้องใจพี่ กินได้ทุกมื้อทุกยาม พี่อยากให้เจ้าลอง แม้หากได้ไปร่วมรบจักได้กินอีกหลายเพลา"

    สิงห์ได้แต่งงกับคำเรียกแกงเขียวเผ็ดของเจ้าหอหน้า เมื่อตักขึ้นลิ้มรสจึงเข้าใจ แกงเขียวหวานของเจ้าหอหน้า มิหวานนัก แต่รสเผ็ดร้อนนำ เค็มปะแล่ม มะเขือเคี่ยวจนเปื่อยแทบละลายในปาก มีรสแปลกจากแกงเขียวหวานที่สิงห์เคยได้ลิ้มรสมานัก แต่เมื่อกินกับเนื้อเค็มตากแห้งย่าง กับเข้ากันแลกลมกล่อม สิงห์กินกับข้าวแล้วให้อิ่มหนำนัก

    **ปัจจุบัน ป้าก็กินแกงเขียวหวานแบบนี้แหละ สูตรเดียวกัน รสมือเดิมๆ
     
  6. donki_hote

    donki_hote สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +39
    ร่วมทำบุญกับทหารนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    กินอิ่มหนำแล้ว ก็ล้างมือในอ่างดินเผาที่ทหารยกมาให้ มิกล้าขยับลุกไปไหน
    ลมพัดโชยเอื่อยมา หอบทรายปลิวมา แต่ช่างเย็นกายยิ่งนัก สิงห์ได้ยินเสียงเจ้าหอหน้าตัดกับพระอนุชาถามข่าวการบ้านการเมือง ในเมืองสองแคว ก็ลอบมองไปรอบๆบริเวณค่าย ที่ช่างประหลาดนัก เหล่าทหารที่เห็นเมื่อครู่ บัดนี้เงียบกริบ ดั่งค่ายร้าง ได้ยินเสียงม้าแว่วมาไกลๆ
    สิงห์มองหาควันไฟจากการปรุงอาหารเลี้ยงคนทั้งค่าย ก็ไม่มีควัน ให้ฉงนใจนัก
    "ไอ้ขุนสิงห์" เสียงเจ้าหอหน้าตวาด สิงห์สะดุ้ง "ใจลอยไปไหนวะ เป็นทหาร นายเรียกยังไม่ได้ยิน คงจักต้องลงมือลงเท้ากระมัง จะได้มีสติอยู่กับกาย"

    สิงห์รีบถวายบังคม แล้วเอ่ย"น้องมัวแต่มองหาควันไฟ แปลกนักใยไม่มีควัน ทหารตั้งเป็นกองร้อย"

    เจ้าหอหน้าทรงส่ายพระพักตร์อย่างอิดหนาระอาพระทัย"ก็ข้าบอกเจ้าแล้ว ว่าอยู่ในลานรบก็เป็นดั่งไปรบ ไปรบใครจักได้มีเวลาหุงหานักหนา ก็กินเสบียงกรัง ข้าวแห้ง เนื้อแห้ง กินกล้วยให้อยู่ท้อง ที่เจ้ามีบุญได้ลิ้มรสแกงเขียว ก็ด้วยบารมีข้า อยู่กลางลานรบ ใครจักแบกมะพร้าวไปทำแกง"

    สิงห์ได้แต่คิดในใจว่า วันนี้ฤกษ์คงมิดีแน่ โดนเจ้าหอหน้าคาดโทษเสียหลายเพลา จนวางหน้าวางตัวมิถูกแล้ว
     
  8. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ยังไม่เกลี้ยงใจเจ้าหอหน้า ที่อยากชำระความกับขุนสิงห์ ทหารที่ตื่นสายกว่านาย เจ้าหอหน้าตัดสืบไปว่า " เมื่อเช้าที่ข้าชนไก่ หากเอ็งเป็นทหารเจ้าของไก่ เอ็งจักให้ไก่เอ็งมาชนกับไก่ข้าฤาไม่
    เอ็งจงรีบเฉลยมา มิต้องเลี่ยงบาลีข้า"

    สิงห์ได้แต่ฉงน คำถามเจ้าหอหน้าช่างตอบยากนัก แต่มัวแต่เงื้อง่าราคาแพง คงจะโดนพระบาทเป็นแน่เสียครานี้ " น้องสงสารไก่ หากเป็นน้อง คงจักให้ไปชนกับตัวที่ชนเก่งกว่าไก่เจ้าพี่ มันจักได้ไม่ขนวิ่น คอพับเยี่ยงนั้น"

    เจ้าหอหน้าพระพักตร์บึ้งตึงนัก " เช่นนั้นไม่เรียกชน เรียกซ้อม เอ็งมิเห็นฤาว่าทหารกลัวอำนาจแห่งข้าเลยต้องให้ไก่มาตี รู้ว่าตีก็แพ้ ข้าชอบใจไอ้ตัวหลังนัก แม้จักปางตาย แต่ได้ยินเสียงนายที่ให้ข้าวให้น้ำมัน มันก็ยอมพร้อมสู้ตายถวายชีวิต สมสัญชาติไก่ชน ไอ้ตัวแรกซิ โดนจิกโดนเตะ ก็กางปีกหลบหาเจ้าของลูกเดียว เช่นนั้น ข้าคงเอามาเข้าทัพมิได้ เจ้าซึ้งใจฤาไม่ ขุนสิงห์ แม้จักแพ้ จักตาย ก็จงตายเยี่ยงทหาร เพลารบแรงใจอาจทำให้เจ้ารอดชีวิต จงสู้จนเลือดหยดสุดท้าย ในการศึกบางคราเราก็เลี่ยงมิได้จักต้องเสียเลือดเสียเนื้อ แต่หากรักตัวกลัวตาย คงจักมิอาจเป็นนักรบได้ ใจข้ารักทหารทุกคนเหมือนลูก ดั่งเจ้าเห็นเจ้าทหารเจ้าของไก่เห็นลูกถูกตีเสียยับ ก็แทบน้ำตาตก แต่ความเป็นพ่อในสนามรบข้าลงไปช่วยลูกทุกคนมิได้ ข้าจึ่งต้องให้ลูกเจ็บ ลูกทนจนชิน เจ้าเข้าใจฤาไม่ พี่มิใช่ยักษ์มารที่เห็นทหารของพี่เสียเลือดเสียเนื้อถูกตียับแล้วไม่รู้สึกรู้สา พี่มิใช่ให้ทหารออกรบเพื่อรักษาบัลลังค์ตน แต่พี่อยากให้ทหารทุกคนเข้าใจว่า เราไปรบมิใช่เพื่อนาย แต่เพื่อนแผ่นดิน"

    เมื่อถึงคราเอ็งได้เป็นเจ้าคนนายคน จงรู้จักเลือกคนเข้าทัพ จงอย่าเลือกคนที่กระเหี้ยนกระหือ พอถึงครารบกับไปไม่เป็น ไม่ชำราญทัพ มันจักหนีทัพ ทำทัพแตก ต้องแพ้ศึก จงดูเสียให้รู้ รบเสียด้วยกันในศึกย่อย วางใจแล้ว ค่อยพาลงศึกใหญ่

    จงแสดงให้ข้าดู ว่าเจ้าเป็นเยี่ยงไร ให้ข้าวางใจ
     
  9. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    พระอนุชาตรัสเบาๆว่า "ขุนสิงห์ เจ้าพี่เมตตาเจ้านัก ทรงมิค่อยโปรดเมตตาสั่งสอนด้วยวาจาไม่ว่ากับผู้ใด เจ้าจักได้เป็นดั่งเงาเจ้าพี่ก็ครานี้ ด้วยรู้เท่าทันจิตเจ้าพี่ เมื่อเจ้าพี่เมตตาเยี่ยงนี้แล้ว จงอย่าดื้อรั้นดันทุรังอีกหนา การใดที่เจ้าพี่สอนสั่งจงทำตาม การใดที่เจ้าพี่มิโปรด จงอย่าประพฤติ หาไม่ หากโดนลงอาญา พี่ก็จักมิกล้าทัดทานให้เจ้า"
     
  10. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ฟังโอวาท ยังไม่ทันสิ้นความ ก็มีกระบวนม้า เข้ามาเป็นกลุ่มท่านขุนประมาณ 10 คน
    สิงห์ให้ยินดีนักด้วยเมื่อเข้ามาไกล้ ก็จำได้ว่าเป็นพี่ทอง พี่แก้ว คงขาดแต่พี่เข้ม

    สิงห์ยันไม่ทันจักเอ่ยถาม เจ้าหอหน้าก็ตรัสว่า
    "พี่เข้มของเจ้า ต้องไปจัดการเรื่องที่บ้านพ่อครูเอก จักตามมาเมื่อเสร็จกิจ"

    สิงห์ให้ตระหนก "บ้านพ่อครูเอก มีเรื่องหรือเจ้าพี่ พ่อครูป่วยกระนั้นฤา"

    เจ้าหอหน้ากับพระอนุชานิ่งเงียบไป จนผิดสังเกตุ สิงห์แทบนั่งไม่ติด คิดเรื่องร้ายต่างๆนาๆ

    พระอนุชาทอดถอนพระปัสสาสะ แล้วตรัสสิ่งที่ทำให้สิงห์ชาไปทั้งร่าง

    "พ่อครูป่วยเนื่องว่า ลูกสาวพ่อครูท้อง แลยังแพ้ท้องมากจนล้มป่วย อาการมิดีนัก
    เจ้าพี่มีเมตตาให้ขุนเข้มและม้าเร็วพาหมอหลวงไปดูอาการนาง อีกสามวันจึงค่อยมา"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2019
  11. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์รู้สึกหวิวไปทั่วท้อง รีบกราบทูลเจ้าหอหน้า"เจ้าพี่"
    ยังมิทันจักได้เอ่ย เจ้าหอหน้าก็ยกมือขึ้น เป็นเชิงปราม
    "ข้ามิอนุญาตให้เจ้าไปดูนาง ที่เจ้าทำมาก็รุงรังเหลือทน จักมิเป็นการดี ข้าได้ยกนางให้ขุนเข้ม
    บัดนี้นางเป็นคนของขุนเข้ม มิควรเจ้าจักกวนน้ำให้ขุ่น วงค์กษัตริย์ตรัสแล้วมิคืนคำ "

    สิงห์หันไปหาพระอนุชา ด้วยหวังว่าจะเข้าใจหัวอกสิงห์
    พระอนุชาทอดถอนพระปัสสาสะ

    "สิงห์เรื่องนี้น้องต้องใคร่ครวญ อย่าใช้อารมณ์นำสติ หากผลีผลามไป จะเสียมากกว่าได้ มิเป็นผลดีกับผู้ใดเลย หากเจ้ากลับไป แล้วขุนเข้มจักทำเยี่ยงไร "
     
  12. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    น้ำตาลูกผู้ชาย ไหลออกมาเอง สิงห์ได้แต่เงยหน้า ให้น้ำตาไหลย้อนเข้าไปในอก

    คงได้แต่โทษตนเอง แม้รู้สึกสำนึกผิด แต่ก็มิอาจกลับไปแก้ไขอดีตได้

    สิงห์ก้มหน้ารับกรรมที่ตนก่อ โดยมิปริปากอุธรณ์ต่อไปอีก

    ภาพในอดีตที่บ้านพ่อครูเอก แลแม่เอื้อมย้อนเข้ามาในหัว

    รวมทั้งพี่เข้ม พี่ชายร่วมสาบาน ทุกคนที่รักสิงห์ ต้องมาน้ำตาตก เพราะการกระทำของตน

    หากมิใช่อยู่ต่อหน้าเจ้าหอหน้า แม้ช้างมาฉุด ต้องบุกน้ำลุยไฟ สิงห์คงต้องกราบเท้าพ่อครูเอกเป็นแน่แท้ แต่ต้องข่มอารมณ์ทั้งมวลไว้ภายใน

    พระอนุชาตรัสต่อด้วยเสียงเมตตา
    "หมอหลวงที่มารักษาแม่เอื้อมแลพ่อครู มาจากอโยธยา วางใจเถิดสิงห์"
    เจ้าหอหน้าตรัสว่า

    "เพลาไปรบ ต้องตัดทิ้งความกังวลให้สิ้น ทหารหลายนายที่ไปรบก็มีลูกเมีย พ่อแม่
    จงทำตามหน้าที่ของเจ้า ฝึกฝนจิตใจให้แข็งแกร่ง"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2019
  13. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขอแผ่เมตตาไปยังเหตุการณ์เขื่อนแตกดินโคลนถล่มที่บราซิล
     
  14. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เจ้าหอหน้าตรัสกับสิงห์สืบไปด้วยน้ำเสียงปราณี ทั้งที่น่าจะทรงกริ้วมากกว่า
    "สิงห์ การใดที่พี่ตรองแล้ว จึงจักสั่งการ คราที่เกิดเรื่องเมื่อตอนจักให้แม่เอื้อมต้องถวายตัว
    การถวายตัวของลูกสาวพ่อครูหัวเมืองนั้น มิใช่พี่หรือพระอนุชาจักอยากมีสนม การเป็นเจ้าเหนือหัวมิใช่จักทำตามใจตนได้ การที่รับลูกสาวพ่อครูมาเป้นสนมเพื่อเป็นการให้แน่ใจว่า หัวเมืองจักไม่แข็งเมือง ศึกนอกนั้นอาจสลายได้ด้วยกำลังแลกลยุทธฺ แต่ศึกใน จักต้องใช้ขนบโบราณรักษาไว้

    พ่อครูเอก คือครูของเหล่าทหารแลนักรบ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญรองจากเมืองสุพรรณ แม้จักมิใช่พ่อเมืองด้วยสายเลือด แต่พ่อครูเอกก็เป็นศูนย์รวมน้ำใจของเหล่าทหาร หากขาดพ่อครูไปเสีย กองกำลังเหมือนขาดแขนขา จักไปรบคราใด หัวเมืองก็ต้องโดนตีแตก แล้วเมืองหลวง จักมิแตกได้เยี่ยงไร ในบรรดาศิษย์ของพ่อครูมีเข้ม
    จักสืบชะตาเมืองได้ มิใช่เป็นแค่พ่อครูคนถัดไป

    ส่วนเจ้าสิงห์ เจ้ามีหน้าที่ของเจ้า ครานั้น เจ้ามิยอมรับนาง เช่นนั้นแล้ว จงรับผลนั้น หากเจ้ายังดื้อรั้นดันทุรัง จักทำให้เสียการใหญ่

    จงจำคำสัตย์สาบานที่ให้ไว้กับเสด็จพ่อ ไม่ว่าเยี่ยงใร หัวใจมอบให้แผ่นดิน ไม่คิดถึงแต่ตน

    กะไรเสีย เด็กในท้องแม่เอื้อม หากมีบุญหนุนนำ คงจักได้เกิด หาไม่แล้ว คงเป็นเพราะกรรมแต่ปางก่อน

    เพลานี้ จงสงบใจเสีย"
     
  15. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์จนด้วยเกล้า มิอาจคัดค้านเจ้าหอหน้าได้
    "ข้าจักให้ม้าเร็ว ไปสืบข่าว ก่อนที่เข้มจักมา เจ้าจักได้เบาใจ"

    ก่อนที่จะเอ่ยการใด ทหารก็เข้ามาขัดจังหวะ โดยนำพ่อครูดาบเข้าเฝ้า
     
  16. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เรื่องส่งของไปใต้ ตอนนี้มีผู้ร่วมบุญมา รวม 2 ท่าน 250 บาท สาธุ
    สิ้นเดือนป้าจะไปส่งของค่ะ รอหน่อยนะพี่ทหาร

    ถิ่นพงไพร
    เขาท่องไปทุกเขตคาม
    นักรบนิรนามแห่งสยามเมืองยิ้ม
    หลับกลางดิน กินก็ไม่ค่อยอิ่ม
    หน้าเปื้อนสนิมดินปืนและความตาย

    *กอดไกปืนทั้งเที่ยงคืนถึงเที่ยงวัน
    หนาวร้อนช่างมัน
    ปล่อยสวรรค์จางหาย
    ขาดแฟนควง
    ดวงเหมือนดังเส้นด้าย
    ฉากสุดท้ายตายอย่างนิรนาม..
    **สนามชายแดนสุดแสนกันดาร
    ตำรวจทหาร อ.ส.ลูกพ่อสยาม
    เล่นกีฬาฆ่าคน จนแทบทุกยาม
    สนามสงครามผิดกับสนามโลกีย์
    .เลือกที่ตายสมชาติชายเชื้อชาติชาญ
    ขุนเขาและลำธารดั่งสุสานโลงผี
    ลูกผู้ชายตายมิเคยเลือกที่
    ฝากจูบนี้ถึงหลุมศพ นักรบนิรนาม

    **ถิ่นพงไพร
    เขาท่องไปทุกเขตคาม
    นักรบนิรนามแห่งสยามเมืองยิ้ม
    หลับกลางดิน กินก็ไม่ค่อยอิ่ม
    หน้าเปื้อนสนิมดินปืนและความตาย
    *กอดไกปืนทั้งเที่ยงคืนถึงเที่ยงวัน
    หนาวร้อนช่างมัน
    ปล่อยสวรรค์จางหาย
    ขาดแฟนควง
    ดวงเหมือนดังเส้นด้าย
    ฉากสุดท้ายตายอย่างนิรนาม..
     
  17. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    กำหนดส่งของไปหาทหาร 4 กพ 2562
    1.คุณ Mootang 50 บาท
    2.คุณ Donki_hote 200 บาท
    3.คุณนุช 500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2019
  18. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เมื่อครูดาบมาถึง พร้อมด้วยท่านขุนทอง แลขุนแก้วเข้ากราบถวายบังคม ท่านขุนแลพ่อครูรู้สึกได้ถึงความกดดันในอากาศ พระพักตร์เจ้าหอหน้าดูกระด้าง ส่วนสิงห์หน้าแดงไปทั้งหน้า พระอนุชาทรงวางพระพักต์เรียบเฉย แต่รู้สึกได้ถึงแววพระเนตรที่ดูกังวล

    มิมีใครกล้ากราบทูลอันใด เจ้าหอหน้าขมวดพระขนง แล้วตรัสด้วยพระสุรเสียงดุดัน "ข้ามอบให้ขุนแก้วนำทัพหน้า ขุนทองเป็นปีกขวา ให้ขุนเหล็กเป็นปีกซ้าย ที่เหลือข้าให้ขุนแก้วเลือก จัดทัพให้พร้อม เพลาเที่ยงวันรุ่งจักตีทัพคราแรก ให้สัญญานโดยกลองศึก จากนั้นจักมิมีสัญญาน ให้ตั้งทัพรับ
    แลครานี้ข้าจักลงศึกเป็นทัพหน้าคู่กับขุนสิงห์ ให้ระวังทัพ ข้าจักเป็นทัพข้าศึก จงสู้ให้เต็มกำลัง."
     
  19. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ท่านขุนทั้งหลายกราบถวายพระบัญชา "รับด้วยเกล้า น้อมรับพระบัญชา พะย่ะค่ะ"
    แล้วท่านขุนทั้งหลายก็รีบไปจัดการเตรียมทัพตามพระบัญชา แม้ขุนแก้วแลขุนทองจะมีท่าทีอิดโรยจากการเดินทางมาจากเมืองหลวง ก็มิมีการปริปากบ่น

    "พ่อครู อาวุธที่ข้าให้ตระเตรียมไว้ คงจักมาถึงรุ่งเช้า ขอให้พ่อครูตรวจตราอีกครา แลแจกจ่ายให้ทหารทั้งสองฝ่าย "

    พ่อครูน้อมศรีษะรับพระบัญชา
    เจ้าหอหน้าตรัสต่อไป " ครานี้ ข้าอยากให้ลองใช้ทวนก่อนลงศึกอีกครา"
     
  20. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,287
    ค่าพลัง:
    +11,833
    แล้วจอหน้าก็ตรัสถามถึงอาวุธกับพ่อครู "ข้าต้องการหัวธนูมาลงอาคม ชุบว่านเสียก่อน จักทันฤาไม่ พ่อครู ไปครานี้ศึกกับคาถาอาคม ข้าอยากกันไว้ดีกว่าแก้ แลอยากลองใช้ธนู หากครานี้ไม่สำเร็จ ข้าจักลองใช้เกาทัณฑ์ของชาวจีนโพ้นทะเล แต่ชัยภูมิของพวกเขมรที่จักไปรบครานี้ มีแต่สุมทุมพุ่มไม้ ไม่มีที่ราบ หากมิทัน ข้าคงลองคราหน้า"

    พ่อครูดาบหัวขาว กราบทูลเบาๆ หัวธนูนั้นข้าไม่ถนัดนัก อันครูข้าสืบมาแต่ครูดาบเป็นหลัก"
    เจ้าหอหน้าทรงพยักพระพักตร์ "เช่นนั้นพ่อครูก็อย่าได้ร้อนใจ มีเพลาอีกมาก พ่อครูไปพักเสียเถิด รอวันรุ่งมีงานอีกมาก"
     

แชร์หน้านี้

Loading...